ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แวมไพร์หลงยุค (นิยายแปล ฮาเร็ม ) ตอนที่ 6 : ท่านจะทำอะไรข้า


          เฟิง เฉิงหลิงสลัดมือน้อยออกอย่างแรง เฟิง เฉิงหลิงถอยหลังออกไปหลายก้าว เขาหันหลังและเตรียมจะออกวิ่งตรงยังไปประตูทางเข้าที่เขาพึงจะผ่านเข้ามาด้านในได้ไม่นานโดยอาศัยสายลมนำทาง ก่อนจะล้มพับลงด้วยสายตาที่มองไม่เห็น

             เฟิง เฉิงหลิงอยู่ๆ เขาก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเพียงแต่ในตอนนี้จะมีหน้าผาลึกอยู่เบื้องหลังเขา มันจะเป็นเรื่องที่ดีสักเพียงใด เขาจะได้ไม่ต้องมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ และประสบกับความอัปยศเช่นนี้

            ผ่านไปครู่ใหญ่ เฟิง เฉิงหลิงกลับไม่รู้สึกถึงสายลมที่หนาวเย็นจากประตูด้านนอก ในทางตรงกันข้าม ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นแทน

            “เจ้าไม่รักตัวเองถึงขนาดนี้เชียวหรือ” เหนือศีรษะของเขาตอนนี้กลับมีเสียงที่ฟังดูราวกับมันเต็มไปด้วยความโกรธแทบไม่แยกไม่ออก  โดยอัตโนมัติ เฟิง เฉิงหลิงมองไปตามทิศทางของเสียงที่ได้ยินขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขามันกลับไม่มีสิ่งอื่นใดนอกไปจากความมืดมิด และความว่างเปล่าอย่างเช่นเคย

            เฟิง เฉิงหลิงก้มลงไปที่พื้นใช้มือของเขาแทนดวงตา พยายามพาตัวเองออกจากอ้อมกอดของ โม่ ชิงหลี่อย่างอยากลำบาก น้ำเสียงที่ดังขึ้นไม่ไกลนัก

            “การคงอยู่ของข้า มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับท่าน”

            โม่ ชิงหลี่เห็นการแสดงออกเช่นนี้ของ เฟิง เฉิงหลิง นางถึงกับต้องถอยหายใจเข้าลึกๆ ถึงแม้เฟิง เฉิงหลิง จะต่อสู้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดเจียงซือ อย่างนางได้ โม่ ชิงหลี่แบกเฟิง เฉิงหลิงตรงไปที่เตียงนอน ก่อนจะโยนเขาลงไปบนที่นอนนุ่มของนางทันที ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงดุร้าย

            “ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออก”  พวกคนประเภทนี้ พวกเขาช่างไม่เข้าใจอะไรเอาง่ายๆ เสียเลย ฮึ่ม.. มันเด่นชัดที่สุดว่านางเป็นห่วงเขา แต่เขากลับเอาแต่พูดคำเดิมๆ

            “ท่านและข้าต่างก็ไม่สนิทชิดเชื้อ”

            โดยสภาพเช่นนี้ เขาช่างไม่มีความกตัญญูเอาเสียเลย สำหรับคนประเทภนี้ คงจะไม่มีใครดีสำหรับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
            เพราะถูกโยนลงไปที่เตียงของ โม่ ชิงหลี่ อย่างแรง แผ่นหลังของเขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเรื่อยๆ เฟิง เฉิงหลี่ขบริมฝีปากล่าง พร้อมกับหัวคิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย เขาตอนนี้ได้คิดไปแล้วว่าโม่ ชิงหลี่กำลังมีความสงสารต่อเขาขึ้นอย่างแน่นอน แต่มัน...แต่มันกลับกลายว่าเป็นเขาคิดไปเองฝ่ายเดียว

            เพราะตอนนี้โม่ ชิงหลี่ได้มายืนอยู่ข้างเตียงนอนของนาง มองไปที่เฟิง เฉิงหลิงที่กำลังถอดเสื้อผ้าของเขาออกที่ละชิ้นๆ หากแต่ดวงตากลับเย็นชาและเต็มไปด้วยความโกรธที่มากขึ้นเรื่อยๆ นางมองดูผิวของชายตรงหน้าที่ควรจะสวยงามสมบูรณ์ผุดผ่อง แต่มันกลับเต็มไปด้วยเครื่องหมายที่ดูน่าตกใจเต็มไปหมด  ในบางพื้นที่ก็มีส่วนที่แผลเริ่มจะเน่าแล้ว

            “ใครทำเจ้า”

           เสียงเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธจนแทบจะทนไม่ได้ดังขึ้น มันเหมือนกับน้ำเสียงของมนุษย์ที่มีความวิกลจริตไปเสียแล้ว โม่ ชิงหลี่สังเหตุรูปร่างหน้าตาของเฟิง เฉิงหลิง คนตรงหน้านางก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มทั่วไป และยังคงมีความเป็นเด็กอยู่มาก แต่ในเวลานี้ที่แน่ๆ มีใครบางคนได้ใช้ความรุนแรงกับร่างกายของเขาอย่างน่าสังเวช

            เฟิง เฉิงหลิงหัวเราะออกมาอย่างบ้าครั่งอีกครั้ง

            “ใครหรือ ฮา ฮา ฮา โม่ ชิงหลี่ ท่านไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ หรือจะเป็นเพราะหากท่านไม่ได้เปิดดูบาดแผลของข้า ท่านจะไม่มีความสุข”

            โม่ ชิงหลี่ ก้มลงไปที่เตียงนางขยับใกล้เข้าไปอีก ก่อนจะเกิดสายลมลมเบาๆ ไปกระทบกับใบหูของเฟิง เฉิงหลิง มือของเธอสัมผัสผิวขาวและผุดผ่องบริเวณลำคอของเฟิง เฉิงหลิง บริเวณที่นางสามารถได้กลิ่นหอมหวานออกมาจากแหล่งอาหารของนาง โม่ ชิงหลี่หลีตางคู่งามของนางลง กลืนน้ำลายอย่างอยากลำบาก แต่ว่าตอนนี้ นางมีสิ่งที่จะต้องทำ ที่มันสำคัญมากกว่าเรื่องกินของนางมากนัก

            “เจ้าคงไม่รู้ ข้าไม่มีความจำเป็นจะต้องแสร้งทำ เช่นมนุษย์อย่างพวกเจ้า”

            เฟิง เฉิงหลิงรับรู้ได้ถึงกลิ่นชื้นร้อนอยู่ข้างๆ แก้มของเขา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการตอบโต้ใดๆ ออกมา เพียงรู้สึกว่าตรงลำคอของเขามันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วไม่นานเขาก็จมเข้าสู่ความมืดมิดโดยไม่รู้ตัว

            ด้วยการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล โม่ ชิงหลี่จัดแจงร่างกายของคนที่พึ่งจะหมดสติไปให้เข้าทีเข้าทาง โม่ ชิงหลี่หลับตาคู่งามลง ภายใต้ฝ่ามืองามมีลูกบอลแสงสีทองสว่างไสวปรากฏออกมา  นางค่อยๆ ลูบไล้ผ่านเครื่องหมายเหล่านั้นบนร่างกายของเฟิง เฉิงหลิง ผ่านไปไม่นาน ผิวขาวผุดผ่องก็กลับคืนสู่สภาพเดิมของมันอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก

            หลังจากเวลาเนินนานผ่านไป โม่ ชิงหลี่ถอยฝ่ามืองานของนางออก ใบหน้าที่สะอาดงดงามตอนนี้ตรงหน้าผากของนางเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับนาง ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ นางเพียงแค่ใช้พลังส่วนน้อยเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น ตอนนี้ร่างกายของนางยังรู้สึกอ่อนเพลียอีกด้วย หรือจะเป็นเพราะว่าตอนนี้นางติดอยู่กับร่างกายของมนุษย์ธรรมดาผู้นี้ โม่ ชิงหลี่รู้สึกสบสนอย่างบอกไม่ถูก

            นางหันหน้ามองไปที่เฟิง เฉิงหลิง มองเห็นดวงตาที่เป็นหลุมลึกตรงหน้า นางต้องถอยหายใจอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ เพียงเพื่อที่จะให้ข้ามาแก้ไขกับสิ่งที่โม่ ชิงหลี่คนก่อนได้ก่อเอาไว้ หรือนี้จะเป็นบททดสอบจากองค์เง็กเซียนฮ่องเต้

            โม่ ชิงหลี่ช่วยประคองร่างของเฟิง เฉิงหลิงให้นั่งตรงข้ามกับนาง ในท่าขัดสมาธิ แสงสีทองหลั่งไหลออกมาจากร่างของโม่ ชิงหลี่ ก่อนจะค่อยๆ ครอบคลุมไปทั่วร่างของนางและเฟิง เฉิงหลิง มันเกิดเป็นแสงสว่างไสวออกไปทั่วบริเวณ สายลมที่เกิดจากพลังของแสงสีทองทำให้ผมดำดกของคนทั้งสองพลิ้วไหวไปมา กระจายตัวออกไปอย่างเป็นอิสระ

            โม่ ชิงหลีค่อยๆ หลับตาลง พร้อมกับยื่นมือของนางไปแตะที่หน้าอกของเฟิง เฉิงหลิง รวบรวมพลังให้ไปอยู่ที่ฝ่ามือน้อย ก่อนจะค่อยๆ ไล้พลังไปยังร่างของชายตรงหน้า

ขอบคุณทุกกำใจและคอมเม้นท์ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น