ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 8: ฝ่าบาทและท่านแม่ทัพสูงสุด




"ย่ะ!" ฟางถังตะโกนขึ้น ในขณะที่เขาแย่งดาบของทหารมาเพื่อสู้กันอย่างยอมตาย

ทหารสองแถวสวมชุดเกราะได้ทำตามคำสั่งของผู้บัญชาการของพวกเขาเพื่อบีบฝูงชนเพื่อที่จะผ่านเข้าไปหาหนิง เสี่ยวเหยา ลานประหารเต็มไปด้วยความโกรธและกลิ่นเหม็นของเลือด แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ความกดดันที่เกิดขึ้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจลำบาก

"ฝ่าบาท! "แม่ทัพนายพลที่ถูกบังคับให้มือของเขาจับอยู่ที่คอของหนิง เสี่ยวเหยาโกรธมากเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้ เขาตัดสินใจว่าเขาอาจจะฆ่าเธอด้วยซ้ำไป มือที่แนบอยู่กับลำคอของเธอจึงรัดแน่นขึ้น แต่หนิง เสี่ยวเหยา ไม่สนใจ เธอผลักแม่ทัพนายพลออกไปและกำลังจะก้าวเข้าไป ตอนนี้ฟางถัง และคนอีกสองสามคนได้ล้อมรอบ โหลว จื่อกุ้ย ไว้เป็นวงกลมเพื่อปกป้องเขา ถ้าหนิง เสี่ยวเหยา ก้าวมาข้างหน้าพวกเขาก็จะสู้ตายกับเธอ ในขณะเดียวกันนักธนูหลายร้อยคนที่ยืนอยู่ใต้แท่นประหาร ต่างก็มุ่งเป่าของลูกศรของพวกเขาทั้งหมดไปที่ผู้นำบนแท่น

"ความผิดทั้งหมดเป็นของข้าผู้เดียว" โหลว จื่อกุ้ย ตะโกนใส่ หนิง เสี่ยวเหยา "มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับพวกเขาแม้แต่น้อย!"

หนิง เสี่ยวเหยา เพียงเงยหน้าจ้องมองขึ้นไปที่บนท้องฟ้า ฝนตกลงมาเล็กน้อยลงมาบนใบหน้าของเธอ อย่างไม่คาดฝันฝนของฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว

"ฝนตก!" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นฝนที่ใสสะอาดเช่นนี้ หนิง เสี่ยวหนิง รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ก่อนจะหันมายิ้มให้กับ โหลว จื่อกุ้ย

"ฝ่าบาท ?!"อุปราชตะโกนมาจากแท่นฝั่งตรงข้าม เมื่อเขาเห็นหนิง เสี่ยวเหยาวิ่งขึ้นไปบนลานประหารด้วยตัวเองและเริ่มยิ้มและพูดคุยกับ โหลว จื่อกุ้ย เขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ อุปราชเซี่ย ไม่อยากที่จะเชื่อว่า หลานสาวที่อ่อนแอ ขี้อาย จะกล้าท้าทายความต้องการของเขา

"วันนี้พวกเราจะไม่ฆ่าใครทั้งนั้น" หนิง เสี่ยวเหยา พูดขึ้นอย่างมีภูมิฐาน ในขณะที่โบกมือขึ้น

ความเงียบราวกับความตายปกคลุมไปบนลานประหาร ในขณะที่ทุกคนจ้องมองไปที่ หนิง เสี่ยวเหยา ก่อนหน้านี้ โหลว จื่อกุ้ย ถูกกล่าวหาว่าติดต่อกับศัตรูเพื่อขายชาติ แต่ตอนนี้พวกเขาจะไม่ฆ่าเขาแล้วหรือ นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน?!

หนิง เสี่ยวเหยาเดินไปทาง โหลว จื่อกุ้ย แต่ละก้าวของเธอนั้นเงียบมาก มันเป็นนิสัยที่นำมาจากโลกที่กำลังจะแตกของเธอ เพราะการก้าวแต่ก้าวอาจจะทำให้ซอมบี้รู้ตัวได้ ฟางถังและคนที่เหลือก็เป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่ตกตะลึงไปเพราะคำพูดของหนิง เสี่ยวเหยา เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ พวกเขาก็ลืมที่จะปิดกั้นทางของเธอเอาไว้ หนิง เสี่ยวเหยายืนอยู่หน้า โหลว จื่อกุ้ย และก้มลงเพื่อตรวจสอบบาดแผลของเขา ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ต่ำ"อย่ากลัว"

          มือของเธอขยับจนรู้สึกได้ถึงพลังอบอุ่นจากฝ่ามือของเธอ แล้วหนิง เสี่ยวเหยา ก็วางมือลงไปบนไหล่ของโหลว จื่อกุ้ย ในเวลาเดียวกันเธอก็ปล่อยลมหายใจออกมา หลังจากการเดินทางข้ามเวลามาที่นี่ เธอไม่เพียงแต่รักษาความสามารถของเธอในการเข้าใจภาษาสัตว์ได้ แต่ยังรักษาทักษะในการเยี่ยวยาของเธอไว้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากโหลว จื่อกุ้ย นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาจึงสามารพยกศีรษะขึ้นมาเพื่อดูหนิง เสี่ยวเหยาเท่านั้น ตอนนี้เธอได้หยุดเลือดของเขาแล้ว และกำลังมองไปที่อาการบาดเจ็บที่ใบหน้าของเขา ดังนั้นสายตาของพวกเขาจึงได้ประสานเข้าด้วยกัน

          นี่เป็นครั้งที่สองที่แม่ทัพสูงสุดได้เห็นหน้าฮ่องเต้ในปัจจุบัน เมื่อครั้งแรกที่พวกเขาพบกันมันเป็นเพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมโดยเหล่าทหารองครักษ์ที่รออยู่ในห้องโถงก่อนแล้ว ในเวลานั้นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ผู้นี้ก็ตกใจกลัวเต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้โหลว จื่อกุ้ย จึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน แต่คราวนี้หนิง เสี่ยวเหยา ก้มตัวลงมาตรงหน้าของเขา ดวงตาที่กลมเรียวเหมือนลูกท้อเขา ไม่มีอะไรเหมือนพระพันปีแม้แต่น้อย ด้วยปากเล็กๆ และจมูกเล็ก ๆ ของเขา ทำให้ใบหน้าของเขาดูราวกับใบหน้าของทารถราว เขาดูคล้ายกับเด็กเล็ก ๆ หรืออาจเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่ไม่เป็นอันตรายต่อใครได้ เมื่อตระหนักได้เช่นนี้ก็ทำให้โหลว จื่อกุ้ย แทบจะสำลักคำสาปแช่งของเขาที่ว่า 'ผู้ปกครองที่โหดเหี้ยม'ที่อยู่ในคอของเขาออกมา

          อีกด้าน หนิง เสี่ยวเหยา กระพริบตาขึ้น ในตอนนั้นเธอต้องจดจ่ออยู่กับเลือดเธอจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของแม่ทัพสูงสุดคนนี้ แต่ตอนนี้เธอมีโอกาสที่จะเห็นและค้นพบว่าเขายังหนุ่มอยู่มาก ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะปกคลุมไปด้วยเลือด แต่ก็ยังดูหล่อเหลาและสง่างาม หัวคิ้วของเขาดูคล้ายกับว่ามีใครมาวาดมันเอาไว้

          อ่า….

          หนิง เสี่ยวเหยา ถอนหายใจด้วยความรู้สึกในหัวใจของเธอ ไม่มีเหตุผลที่ผู้ชายจะดูดีขนาดนี้เลย แม้แต่เธอก็ยังไม่หล่อขนาดนั้น! (ผู้เขียน: สลดใจ เจ้าเป็นผู้หญิง ตกลงไหม?)

          "เจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก"โหลว จื่อกุ้ย ค่อยๆสงบลง จู่ๆ เขาก็ยิ้มให้หนิง เสี่ยวเหยา และพูดด้วยเสียงต่ำขึ้น "เจ้าไม่มีอะไรมากไปกว่าหุ่นเชิดที่อยู่ในมือของพ่อลูกเซี่ยคู่นั้นเท่านั้น"

          "... .. " หนิง เสี่ยวเหยา ไม่ตอบ เขาต้องตอกย้ำตัวตนของเธอด้วยหรือ?

          "อย่ามายุ่งกับข้า" สายตาที่ดำมืดของโหลว จื่อกุ้ย จ้องมองไปที่หนิง เสี่ยวเหยา ทุกคำพูดเขาเน้นขึ้นอย่างจริงจัง "ดินแดนเหล่านี้กำลังแกว่งอยู่ท่ามกลางพายุที่โกรธแค้น ฝ่าบาทพระองค์ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย "

          หนิง เสี่ยวเหยา รู้สึกงงงวยเล็กน้อย ชายผู้นี้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว แต่เขาก็ยังมีใจที่จะห่วงเธอด้วยหรือ