ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 5: ถ้าเจ้าเป็นผู้ชายก็มากับข้า




         ทันทีที่หนิง เสี่ยวเหยาลงถึงพื้น เธอก็มองไปรอบ ๆ เพื่อหาเส้นทาง ก่อนที่จะได้ยินเสียง คนตะโกนขึ้นเสียงดังว่า "ความอยุติธรรมของท่านแม่ทัพสูงสุดอยู่ที่ไหน" เสียงเหมือนชายที่วิ่งเข้าไปในห้องของเธอและทำให้เธอหมดสติไป หนิง เสี่ยวเหยา ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจว่าคนที่เป็นเจ้าของเสียงอาจสามารถเป็นพันธมิตรที่ดีได้

ทหารของวังหลวงได้บังคับให้ฟางถังคุกเข่าลงไปบนพื้นดิน ในขณะนี้เพื่อนร่วมชาติในกองทัพของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ตอนนี้ฟางถัง ถูกตั้งข้อหาเนื่องจากที่เขาวิ่งเข้าไปในห้องบรรทมของฮ่องเต้และทำให้ฮ่องเต้หมดสติไป เขารู้ว่าเขากำลังจะตายเพราะฉะนั้นเขาจึงเปิดปากตะโกนขึ้น

"เราติดตามท่านแท่ทัพสูงสุดเพื่อต่อสู้อย่างขมขื่นกับทางเหนือฮู ท่านแม่ทัพสูงสุดถูกยิงด้วยลูกศรหกดอก แต่ยังคงอยู่ที่แนวหน้าโดยไม่หลบหนี! หลังจากที่พวกเราเอาชนะ ทางเหนือฮู ได้พวกเราก็ถูกเรียกตัวกลับมาที่เมืองหลวง ก่อนที่เราจะมีเวลาได้ถอดชุดเกราะของพวกเราออกด้วยซ้ำ แล้วตอนนั้นเจ้ากับนั่งเงียบๆ อย่างสงบ โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้นด้วยซ้ำ แล้วเจ้ากำลังทำในอะไรอยู่ตอนนี้! ท่านแม่ทัพสูงสุดได้ติดต่อกับชาวป่าทางเหนือและทรยศต่อแคว้นของเขาอย่างนั้นหรือ? ฮึม!”

"ปิดปากเขา! "" ผู้บัญชาการทหารองครักษ์สั่งขึ้นเสียงดัง! องครักษ์ของฮ่องเต้สองคนเดินไปข้างหน้าด้วยผ้าสำหรับปิดปากของฟางถัง นายทหารหุ้มเกราะบางส่วนที่มองเห็น ฟางถัง กำลังถูกลดเกียรติก็สามารถทำได้เพียงยืนมองอย่างช่วยอะไรไม่ได้ พวกเขาทำได้เพียงกำกำปั้นของพวกเขาไว้แน่ แล้วครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ในเมืองหลวงเล่าจะเป็นอย่างไร? ถ้าพวกเขาตายเพื่อพยายามช่วยเขา พวกเขาจะสามารถลากครอบครัวของพวกเจ้าไปกับพวกเขาได้จริงๆหรือ

เมื่อถึงจุดนี้ หนิง เสี่ยวเหยาก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ต่อหน้า ฟางถัง

"ฝ่าบาท?" ผู้บัญชาการทหารองครักษ์จำ หนิง เสี่ยวเหยา ได้เมื่อเห็นว่านางมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง เขาก็รู้สึกตกใจมาก ทำไมฝ่าบาทถึงได้มาอยู่ที่นี่ตามลำพัง?

เมื่อส่วนที่เหลือของทหารองครักษ์ได้ยินว่าผู้บัญชาการของพวกเขาพูดขึ้นว่า 'ฝ่าบาท' พวกเขาก็รีบคุกเข่าลงไปบนพื้นดิน หนิงเสี่ยวเหยา ไม่มีเวลาไปสนใจกับพวกเขา เธอยื่นมือออกไปเพื่อดึงฟางถังขึ้นและถามว่า "ท่านแม่ทัพสูงสุดเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆหรือ?"

การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของหนิง เสี่ยวเหยา ทำให้ ฟางถัง ตกใจเช่นกัน แต่ทันทีที่เขาได้ยินคำถามเกี่ยวกับแม่ทัพสูงสุดโหลว เขาเร่งรีบพูดขึ้นทันที "ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพสูงสุดถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด กระหม่อม "เขาหยุดนิ่งไป ก่อนจะค้นรอบกายของเขาและหยิบห่อผ้าออกมาและเปิกมันออกเพื่อให้หนิง เสี่ยวเหยาได้ดู ภายในมีหัวลูกศรที่เปื้อนเลือดหกดอกที่มีปลายลูกศรนั้นมีลักษณะงอคล้ายตะขอด้วย

"ฝ่าบาทนี่เป็นหัวลูกศรที่นำมาจากร่างของท่านแม่ทัพสูงสุด" ฟางถัง พูดขึ้นด้วยดวงตาสีแดง "ท่านแม่ทัพสูงสุดยังไม่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บของเขาด้วยซ้ำ ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพสูงสุดไม่อาจทรยศต่อแคว้นนี้ได้ กระหม่อมขอร้องฝ่าบาท ... "

"พอแล้วไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไรอีก" หนิง เสี่ยวเหยาลูบไหล่ของฟางถังก่อนจะพูดขึ้น "นำทาง เราจะไปช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดกัน"

ทั้ง ฟางถัง และคนอื่น ๆ ในที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็เหตุตะลึงกับคำพูดของ หนิง เสี่ยวเหยา พวกเขาได้ยินผิดไปหรือไม่? ฮ่องเต้ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากท่านอุปราช พูดว่าเขาต้องการไปช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดอย่างนั้นหรือ?

"ถ้าเจ้าเป็นผู้ชาย เจ้าก็มากับข้า" หนิง เสี่ยวเหยา นั้นตัวเล็ก แต่ยืนเหยียบตรงในขณะที่พูดขึ้น "ถ้าทำทุกกอย่างแล้วมันใช้ไม่ได้ผล พวกเราจะก็ต้องใช้กำลัง เจ้ากล้าหรือไม่ "

ก่อนที่ฟางถัง จะทันได้พูดขึ้น แม่ทัพที่ดูสูงและแข็งแกร่งก็วิ่งเข้าไปหาหนิง เสี่ยวเกยาและถามขึ้น "ฝ่าบาท พระองค์พูดจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?"

หนิง เสี่ยวเหยาตอบขึ้นทันที"ข้าขอสาบานด้วยตัวตนของข้าและเกียรติของข้า"

แม่ทัพนายพลสองสามคนได้แลกเปลี่ยนสายตากัน แน่นอนว่าพวกเขาจะช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดหากมีโอกาส แต่ถ้านี่เป็นกับดักของท่านอุปราชเซี่ยเล่า? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฮ่องเต้หลอกล่อให้พวกเขาเข้าไปในพื้นที่ของลานประหาร เพื่อให้พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏและถูกประหารไปด้วยกัน

ในขณะเดียวกันดวงตาหงส์ของหนิง เสี่ยวเหยาก็มองไปเห็นว่าผู้บัญชาการทหารองครักษ์ได้ส่งผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปอาจจะไปรายงานต่อพระพันปี เธอก็คว้าดาบจากทหารองครักษ์ที่อยู่ข้างเธอและโยนมันออกไปทันที

"อา"ทหารองครักษ์ที่อยู่ระหว่างทางไปรายงานต่อพระพันปีถูกตีเข้าที่ศีรษะของเขาและล้มลงกับพื้นทันที

"... ... " ทุกคนก็พูดไม่ออก ไม่มีใครเคยได้ยินมาว่าฮ่องเต้ได้ฝึกฝนวรยุทธมาก่อน

หลังจากที่ตีหัวทหารองครักษ์จนล้มลงไปแล้ว หนิง เสี่ยวเหยาก็ถามอย่างเริ่มหมดอดทนขึ้น"พวกเจ้าไปหรือไม่? ถ้าไม่ ข้าจะไปตามลำพัง"หนิง เสี่ยวเหยา ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับแนวหน้าในโลกเก่าของเธอ แต่ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางกำนัลและทหารองครักษ์เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าทักษะการต่อสู้ของเธอก็ไม่ได้เลวร้ายนักสำหรับโลกนี้ แต่ไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน เธอก็จะใช้พลังทั้งหมดที่มีในการต่อสู้ในภายหลังเพื่อช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดที่ชื่อโหลว จื่อกุ้ยให้ได้

"กระหม่อมจะตามเสด็จพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" ฟางถัง เช็ดใบหน้าของเขาก่อนพูดอย่างจริงจังกับหนิง เสี่ยวเหยา ไม่ว่าจะเป็นกำดักของ ท่านอุปราชหรือไม่เขาก็ยินดีที่จะลองดู ตราบใดที่เขามีโอกาสที่จะช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดได้

"เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ" หนิง เสี่ยวเหยา โบกมือขึ้นแล้ววิ่งไปทางประตูที่อยู่ใกล้ ๆ เนื่องจากมีหอสังเกตการณ์อยู่ด้านบน มันอาจจะเป็นทางออกไปจากพระราชวังก็ได้