ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 15: ไม่มีทางช่วยท่านแม่ทัพ


          หนิง เสี่ยวเหยาเดินออกมาจากห้องโถงในตำหนักพระพันปีรู้สึกว่าชีวิตนั้นยากลำบาก เธอเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้เห็นต้นไม้ที่ออกดอก ทะเลสาบและนกต่าง ๆ และปลา อารมณ์ของเธอจึงค่อยๆดีขึ้น หนิง เสี่ยวเหยาไม่เคยเห็นโลกเช่นนี้ในขณะที่เติบโตขึ้นมาในโลกที่กำลังตะแตก ไม่ว่ามีชีวิตจะยากลำบากแค่ไหน มันจะยากลำบากไปกว่าการอยู่กับภัยคุกคามที่สามารถถูกซอมบี้กินได้ตลอดเวลาอีกหรือ? ในทันทีหนิง เสี่ยวเหยา เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่ไม่มีที่สิ้นสุด เธอไม่กลัวแม้แต่ซอมบี้ ดังนั้นทำไมเธอถึงกลัวคนปกติ? คนประเภทนี้ยังไม่ได้พัฒนาเลยด้วยซ้ำ! ตลกจริงๆ!

          เมื่ออารมณ์ดีขึ้นความเร็วในการเดินของ หนิง เสี่ยวเหยา ก็เพิ่มขึ้น นางกำนัลและขันทีผู้ติดตามฮ่องเต้ยังตามมาไม่ทัน เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเริ่มออกวิ่งทุกคนก็ตระหนักว่าฮ่องเต้ได้หายไปจากสายตาของพวกเขาแล้วเพียงแค่ก้าวกระโดด พวกเขาทั้งหมดไม่ได้พูดอะไร พวกเขาจะอธิบายเรื่องนี้ให้กับพระพันปีฟังได้อย่างไร? นอกจากนี้ใครบอกว่าฮ่องเต้ศึกษาเฉพาะหนังสือไม่ใช่วรยุทธ?

          หนิง เสี่ยวเหยา เดินผ่านตำหนักในวังไปจนถึงสวนขนาดใหญ่ ในขณะที่ร้องเพลง “ไปฆ่าซอมบี้กันเถอะ ฉันจะฆ่าซอบี้......” เดือนเมษายนเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับต้นไม้ที่จะงอกใหม่ออกมา ดังนั้นหนิง เสี่ยวเหยา จึงเห็นใบของต้มโบตั๋นปกคลุมท้องฟ้าในทันทีที่เธอมองขึ้นไป

          ฮะ! หนิง เสี่ยวเหยา โยนหญ้าที่อยู่ในมือของเธอออกไปและวิ่งอย่างร่าเข้าไปในป่า ช่างเป็นโลกที่สวยงามจริงๆ!

          ในเวลาเดียวกัน แมวสี่ตัวกำลังประชุมกันอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง

          "เหมียว" แมวค่อนข้างผอมเลียอุ้งเท้าแมวตัวตัวใหญ่ที่เป็นหัวหน้า อย่างน่าชื่นชมและพูดว่า "หัวหน้า ไม่มีทางช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดได้แล้วหรือ"

          แมวดำหัวหน้า เลียแมวผอมจนมันคะมำและพูดขึ้น "มันเกิดอะไรขึ้น? คนไม่เต็มเต็งผู้นั้นยังไม่ได้ช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดและนำเขากลับมาอีกหรือ? "

          ในป่า หนิง เสี่ยวเหยา ถึงตัวแข็งค้างที่ถูกเรียกว่าโง่อีกครั้ง ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดและพาเขากลับมาหรือ!?

          แมวผอมหมุนไปรอบๆ ก่อนที่จะนั่งตัวตรงและบอกซ้ำถึงสิ่งที่ได้ยินจาก อุปราชเซี่ยและพระพันปีภายใต้รถม้าของพวกเขา เพื่อหัวหน้าแมวดำและแมวตัวอื่น ๆ บนต้นไม้และมนุษย์ใต้พวกเขาได้ยินก็ตะลึงไปตามๆ กัน ไม่นานหัวหน้าแมวดำ ก็ร้องอย่างเศร้าๆ ขึ้น "เหมียว มนุษย์ที่น่ารังเกียจ!"

          หนิง เสี่ยวเหยา กระทีบเท้าของเธอ ก่อนที่จะหันหลังและรีบวิ่งออกไปจากป่า มียาพิษอยู่บนใบมีดของผู้ประหารชีวิตหรือ? ชายชราสารเลว! แมวสี่ตัวบนต้นไม้ได้ยินเพียงเสียงหนิง เสี่ยวเหยาตะโกน ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่ามนุษย์ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างใต้พวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อพวกเขามองอีกครั้ง พวกเขาก็เห็นว่ารูปร่างที่วิ่งไปอย่างบ้าคลั่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น หนิงหยู

          "พวกเราตามไป" หัวหน้าแมวดำกระโดดระหว่างกิ่งก้านราวกับบินได้จนกระทั่งเขามาถึงพื้นดิน จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปจากป่าพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาที่ตามมา

          มนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้ววิ่งได้ราวกับลมเมื่อพวกเขารีบร้อน หนิง เสี่ยวเหยามาถึงห้องนอนของเธอภายในชั่วลมหายใจ ในขณะที่ทุกคนที่ติดตามฮ่องเต้ยังคงกระจัดกระจายออกไปตามหาฮ่องเต้อยู่ในสวน นางกำนัลและขันที่อยู่ที่ตำหนักรู้สึกว่ามีสายลมพัดผ่านพวกเขาไปและไม่สามารถแม้แต่จะมองเห็นร่างของหนิง เสี่ยวเหยาได้อย่างชัดเจนด้วยซ้ำ

          ฟางถังและคนส่วนที่เหลือคอยเฝ้าระวังอยู่รอบเตียง พวกเขาไม่รู้วิธีการรักษาผู้ป่วยและไม่สามารถหาหมอเพื่อมาดูแผลของโหลว จื่อกุ้ย ได้ เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนเตะเปิดประตูออก แม่ทัพนายพลสองสามคนก็รีบหันกลับไปมองไม่แต่ก็เห็นใครที่นั่น เมื่อพวกเขาหันกลับมาพวกเขาก็ได้เห็นหนิง เสี่ยวเหยายืนอยู่ข้างเตียงแล้ว ตอนนี้โหลว จื่อกุ้ย กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก เขาจึงยังไม่สามารถฟื้นพลังกายของเขาได้ หนิง เสี่ยวเหยา ฟังการหายใจและการเต้นของหัวใจของเขา ก่อนปล่อยลมหายใจออกมา ในขณะที่เธอกำลังเดินเล่นไปตามสวนและเพลิดเพลินกับโลกที่สวยงาม ท่านแม่ทัพก็กำลังตายจากพิษ!

          ฟางถังถามอย่างระมัดระวังขึ้น "ฝ่าบาท พระองค์ ... ?"

          หนิง เสี่ยวเหยา ก้มลงไปและใช้มือของเธอสัมผัสไปเบา ๆ ที่บาดแผลบนไหล่ของโหลว จื่อกุ้ย ฟางถัง ต้องการถามคำถามเพิ่มเติม แต่แม่ทัพนายพลข้างๆ เขาดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้เพื่อบอกให้เงียบ หัวไหล่ของโหลว จื่อกุ้ย ถูกตัดเนื้อไปจากนั้นก็ถูกทำลายด้วยอาวุธ ตอนนี้ผิวของเขาเหลืออยู่น้อยกว่าเศษหนึ่งส่วนสี่ของผิวก่อนหน้าของเขา ในขณะที่บริเวณส่วนลึกของบาดแผลได้เผยให้เห็นถึงกระดูก หนิง เสี่ยวเหยาหรี่ตาเพื่อที่จะมองให้ลึกลงไปอีกแต่ก็มองไม่เห็นสารพิษอะไร เธอเพิ่มความกดดันของเธอลงไปในฝ่ามือที่ปกคลุมบาดแผลจนกว่ามันจะเริ่มมีเลือดออกอีกครั้ง

          เมื่อเห็นมือของหนิง เสี่ยวเหยา แช่ไปด้วยเลือดของท่านแม่สูงสุด แม่ทัพนายพลก็ไม่สามารถอดทนไว้ได้อีกแล้วและร้องขึ้น "ฝ่าบาท!!"

          หนิง เสี่ยวเหยาเพียงแค่พูดขึ้น "ถ้าเจ้ามีพลังมากเช่นนั้น ทำไมไม่ไปเอาน้ำร้อนและผ้าพันแผลมา?" มีเธออยู่ที่นี่พวกเขาไม่ต้องการยา แต่บาดแผลของโหลว จื่อกุ้ย ยังไม่หายเป็นปกติ ดูเหมือนว่าพวกเขาควรพันแผลมันก่อน

          "ที่ไหน พวกเราจะไปเอามันมาจากที่ไหน พ่ะย่ะค่ะ?"ฟางถังถามขึ้น นี่คือตำหนักมังกร มันเป็นสถานที่ที่พวกเขาสามารถวิ่งไปรอบๆ ราวกับคนตาบอดได้อย่างนั้นหรือ?

          เมื่อเห็นว่าไม่มีสัญญาณของสารพิษในเลือด หนิง เสี่ยวเหยา ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ดูเหมือนว่าเธอจะกำจัดยาพิษออกไปเมื่อเธอรักษาท่านแม่ทัพสูงสุดที่ลานประหารไปแล้ว ทำได้ดีมากพลังเยี่ยวยา!

ฝ่าบาท?ฟางถังร้องขึ้น


          "ข้าก็ไม่รู้" หนิง เสี่ยวเหยายักไหล่ให้ฟางถัง เธอเพิ่งมาที่นี่วันนี้และใช้เวลาทั้งหมดไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่รู้แม้กระทั่งว่าห้องครัวเพื่อต้มน้ำร้อนอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ