หนิง
เสี่ยวเหยาเดินออกมาจากห้องโถงในตำหนักพระพันปีรู้สึกว่าชีวิตนั้นยากลำบาก เธอเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้เห็นต้นไม้ที่ออกดอก
ทะเลสาบและนกต่าง ๆ และปลา อารมณ์ของเธอจึงค่อยๆดีขึ้น หนิง
เสี่ยวเหยาไม่เคยเห็นโลกเช่นนี้ในขณะที่เติบโตขึ้นมาในโลกที่กำลังตะแตก
ไม่ว่ามีชีวิตจะยากลำบากแค่ไหน มันจะยากลำบากไปกว่าการอยู่กับภัยคุกคามที่สามารถถูกซอมบี้กินได้ตลอดเวลาอีกหรือ? ในทันทีหนิง
เสี่ยวเหยา เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่ไม่มีที่สิ้นสุด เธอไม่กลัวแม้แต่ซอมบี้ ดังนั้นทำไมเธอถึงกลัวคนปกติ? คนประเภทนี้ยังไม่ได้พัฒนาเลยด้วยซ้ำ!
ตลกจริงๆ!
เมื่ออารมณ์ดีขึ้นความเร็วในการเดินของ
หนิง เสี่ยวเหยา ก็เพิ่มขึ้น นางกำนัลและขันทีผู้ติดตามฮ่องเต้ยังตามมาไม่ทัน
เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเริ่มออกวิ่งทุกคนก็ตระหนักว่าฮ่องเต้ได้หายไปจากสายตาของพวกเขาแล้วเพียงแค่ก้าวกระโดด
พวกเขาทั้งหมดไม่ได้พูดอะไร พวกเขาจะอธิบายเรื่องนี้ให้กับพระพันปีฟังได้อย่างไร? นอกจากนี้ใครบอกว่าฮ่องเต้ศึกษาเฉพาะหนังสือไม่ใช่วรยุทธ?
หนิง เสี่ยวเหยา เดินผ่านตำหนักในวังไปจนถึงสวนขนาดใหญ่ ในขณะที่ร้องเพลง
“ไปฆ่าซอมบี้กันเถอะ ฉันจะฆ่าซอบี้......” เดือนเมษายนเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับต้นไม้ที่จะงอกใหม่ออกมา
ดังนั้นหนิง เสี่ยวเหยา จึงเห็นใบของต้มโบตั๋นปกคลุมท้องฟ้าในทันทีที่เธอมองขึ้นไป
ฮะ! หนิง เสี่ยวเหยา โยนหญ้าที่อยู่ในมือของเธอออกไปและวิ่งอย่างร่าเข้าไปในป่า
ช่างเป็นโลกที่สวยงามจริงๆ!
ในเวลาเดียวกัน แมวสี่ตัวกำลังประชุมกันอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง
"เหมียว"
แมวค่อนข้างผอมเลียอุ้งเท้าแมวตัวตัวใหญ่ที่เป็นหัวหน้า อย่างน่าชื่นชมและพูดว่า
"หัวหน้า ไม่มีทางช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดได้แล้วหรือ"
แมวดำหัวหน้า เลียแมวผอมจนมันคะมำและพูดขึ้น
"มันเกิดอะไรขึ้น? คนไม่เต็มเต็งผู้นั้นยังไม่ได้ช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดและนำเขากลับมาอีกหรือ? "
ในป่า หนิง เสี่ยวเหยา ถึงตัวแข็งค้างที่ถูกเรียกว่าโง่อีกครั้ง
ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดและพาเขากลับมาหรือ!?
แมวผอมหมุนไปรอบๆ ก่อนที่จะนั่งตัวตรงและบอกซ้ำถึงสิ่งที่ได้ยินจาก
อุปราชเซี่ยและพระพันปีภายใต้รถม้าของพวกเขา
เพื่อหัวหน้าแมวดำและแมวตัวอื่น ๆ บนต้นไม้และมนุษย์ใต้พวกเขาได้ยินก็ตะลึงไปตามๆ
กัน ไม่นานหัวหน้าแมวดำ ก็ร้องอย่างเศร้าๆ ขึ้น "เหมียว มนุษย์ที่น่ารังเกียจ!"
หนิง เสี่ยวเหยา กระทีบเท้าของเธอ ก่อนที่จะหันหลังและรีบวิ่งออกไปจากป่า
มียาพิษอยู่บนใบมีดของผู้ประหารชีวิตหรือ? ชายชราสารเลว!
แมวสี่ตัวบนต้นไม้ได้ยินเพียงเสียงหนิง เสี่ยวเหยาตะโกน ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่ามนุษย์ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างใต้พวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เมื่อพวกเขามองอีกครั้ง พวกเขาก็เห็นว่ารูปร่างที่วิ่งไปอย่างบ้าคลั่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น
หนิงหยู
"พวกเราตามไป"
หัวหน้าแมวดำกระโดดระหว่างกิ่งก้านราวกับบินได้จนกระทั่งเขามาถึงพื้นดิน
จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปจากป่าพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาที่ตามมา
มนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้ววิ่งได้ราวกับลมเมื่อพวกเขารีบร้อน
หนิง เสี่ยวเหยามาถึงห้องนอนของเธอภายในชั่วลมหายใจ ในขณะที่ทุกคนที่ติดตามฮ่องเต้ยังคงกระจัดกระจายออกไปตามหาฮ่องเต้อยู่ในสวน
นางกำนัลและขันที่อยู่ที่ตำหนักรู้สึกว่ามีสายลมพัดผ่านพวกเขาไปและไม่สามารถแม้แต่จะมองเห็นร่างของหนิง
เสี่ยวเหยาได้อย่างชัดเจนด้วยซ้ำ
ฟางถังและคนส่วนที่เหลือคอยเฝ้าระวังอยู่รอบเตียง
พวกเขาไม่รู้วิธีการรักษาผู้ป่วยและไม่สามารถหาหมอเพื่อมาดูแผลของโหลว จื่อกุ้ย
ได้ เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนเตะเปิดประตูออก แม่ทัพนายพลสองสามคนก็รีบหันกลับไปมองไม่แต่ก็เห็นใครที่นั่น
เมื่อพวกเขาหันกลับมาพวกเขาก็ได้เห็นหนิง เสี่ยวเหยายืนอยู่ข้างเตียงแล้ว ตอนนี้โหลว
จื่อกุ้ย กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก เขาจึงยังไม่สามารถฟื้นพลังกายของเขาได้
หนิง เสี่ยวเหยา ฟังการหายใจและการเต้นของหัวใจของเขา ก่อนปล่อยลมหายใจออกมา ในขณะที่เธอกำลังเดินเล่นไปตามสวนและเพลิดเพลินกับโลกที่สวยงาม
ท่านแม่ทัพก็กำลังตายจากพิษ!
ฟางถังถามอย่างระมัดระวังขึ้น "ฝ่าบาท
พระองค์ ... ?"
หนิง เสี่ยวเหยา ก้มลงไปและใช้มือของเธอสัมผัสไปเบา
ๆ ที่บาดแผลบนไหล่ของโหลว จื่อกุ้ย ฟางถัง ต้องการถามคำถามเพิ่มเติม แต่แม่ทัพนายพลข้างๆ
เขาดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้เพื่อบอกให้เงียบ หัวไหล่ของโหลว จื่อกุ้ย ถูกตัดเนื้อไปจากนั้นก็ถูกทำลายด้วยอาวุธ
ตอนนี้ผิวของเขาเหลืออยู่น้อยกว่าเศษหนึ่งส่วนสี่ของผิวก่อนหน้าของเขา ในขณะที่บริเวณส่วนลึกของบาดแผลได้เผยให้เห็นถึงกระดูก
หนิง เสี่ยวเหยาหรี่ตาเพื่อที่จะมองให้ลึกลงไปอีกแต่ก็มองไม่เห็นสารพิษอะไร
เธอเพิ่มความกดดันของเธอลงไปในฝ่ามือที่ปกคลุมบาดแผลจนกว่ามันจะเริ่มมีเลือดออกอีกครั้ง
เมื่อเห็นมือของหนิง เสี่ยวเหยา แช่ไปด้วยเลือดของท่านแม่สูงสุด
แม่ทัพนายพลก็ไม่สามารถอดทนไว้ได้อีกแล้วและร้องขึ้น "ฝ่าบาท!!"
หนิง
เสี่ยวเหยาเพียงแค่พูดขึ้น "ถ้าเจ้ามีพลังมากเช่นนั้น ทำไมไม่ไปเอาน้ำร้อนและผ้าพันแผลมา?" มีเธออยู่ที่นี่พวกเขาไม่ต้องการยา
แต่บาดแผลของโหลว จื่อกุ้ย ยังไม่หายเป็นปกติ ดูเหมือนว่าพวกเขาควรพันแผลมันก่อน
"ที่ไหน พวกเราจะไปเอามันมาจากที่ไหน
พ่ะย่ะค่ะ?"ฟางถังถามขึ้น นี่คือตำหนักมังกร
มันเป็นสถานที่ที่พวกเขาสามารถวิ่งไปรอบๆ ราวกับคนตาบอดได้อย่างนั้นหรือ?
เมื่อเห็นว่าไม่มีสัญญาณของสารพิษในเลือด
หนิง เสี่ยวเหยา ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
ดูเหมือนว่าเธอจะกำจัดยาพิษออกไปเมื่อเธอรักษาท่านแม่ทัพสูงสุดที่ลานประหารไปแล้ว ทำได้ดีมากพลังเยี่ยวยา!
“ฝ่าบาท?” ฟางถังร้องขึ้น
"ข้าก็ไม่รู้" หนิง
เสี่ยวเหยายักไหล่ให้ฟางถัง เธอเพิ่งมาที่นี่วันนี้และใช้เวลาทั้งหมดไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยไม่รู้แม้กระทั่งว่าห้องครัวเพื่อต้มน้ำร้อนอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ