เมื่อรถถึงประตูทางเข้าพระราชวัง ทหารองค์รักษ์ที่เฝ้าประตูก็บอกให้พวกเขาจอด
แต่เมื่อพวกเขาเห็น หนิง เสี่ยวเหยา ยืนหัวของเธอออกจากหน้าต่างรถม้า ทหารองครักษ์ที่ปฏิบัติหน้าก็ให้พวกเขาผ่านเข้าไปในทันที
มันไร้เหตุผลที่จะห้ามฮ่องเต้ไม่ให้กลับมายังวังของเขา
"แล้วพวกเราควรจะพาท่านแม่ทัพสูงสุดไปที่ไหนดี?"ฟางถังจับตัวโหลว จื่อกุ้ย ไว้ตลอดทาง
ตอนนี้พวกเขามาอยู่ในพระราชวังแล้ว ฟางถังจึงไม่สามารถที่จะเก็บคำถามของเขาเอาไว้ได้อีกต่อไป
ท่านแม่ทัพสูงสุดของเขาเป็นคนบริสุทธิ์ แล้วจะให้เขาไปอยู่ที่ไหนได้ในพระราชวัง? หนิง เสี่ยวเหยา
ตกอยู่ในความคิดที่เงียบสงบ พูดอย่างจริงจังเธอก็เพิ่งข้ามเวลามาวันนี้และรู้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้เธอไม่มีรู้อะไรเกี่ยวกับบ้านในปัจจุบันของเธอเลย
"พวกเราสามารถนำท่านแม่ทัพสูงสุดกลับไปที่ค่ายทหารได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท?" แม่ทัพคนหนึ่งถามหนิง
เสี่ยวเหยาขึ้น เขาไม่ต้องการอยู่ในเมืองหลวงที่น่ากลัวแห่งนี้อีกต่อไป!
"แล้วท่านแม่ทัพสูงสุดจะสามารถทนต่อการเดินทางที่ยาวนานแบบนั้นได้อย่างไร?" แม่ทัพอีกคนหนึ่งขัดขึ้น
บรรดาแม่ทัพนายพลต่างก้มศีรษะลงและคอยมองไปที่โหลว
จื่อกุ้ย คนที่ร่างกายอาบไปด้วยเลือด แล้วทุกคนก็เงียบลง ท่านแม่ทัพสูงสุดได้รับบาดเจ็บในระดับนี้
แล้วเขาจะสามารถเดินทางไกลได้อย่างไร?
หนิง เสี่ยวเหยา เห็นว่าฟางถัง และคนที่เหลือไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ดังนั้นเธอจึงโบกมือเธอและพูดขึ้น "เช่นนั้นก็ให้เขาอยู่กับข้า ข้ามีห้องพักจำนวนมากในตำหนักที่ข้าอาศัยอยู่"
ที่พักของเธอไม่เพียงพอสำหรับผู้แม่ทัพสูงสุด แต่ยังอยู่มีที่สำหรับแม่ทัพอีกถึง 30 คน
แถมยังจะมี่ที่ว่างเหลืออีก
"... ... " ฟางถัง และคนที่เหลือต่างก็ไร้คำพูด
ตำหนักของฮ่องเต้จะไม่ใหญ่ได้อย่างไร? ด้วยเหตุผลบางประการคำพูดของฮ่องเต้ทำให้รู้สึกแปลก ๆ ในหูของพวกเขา
ไม่นาน พวกเขามาถึงตำหนักที่พักของฮ่องเต่
หนิง เสี่ยวเหยายังคงเป็นคนที่เร็วที่สุดและอุ้มโหลว จื่อกุ้ย ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่จะกระโดดลงจากรถม้า
จากนั้นเธอก็เดินตรงไปยังห้องที่เธอจากไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากมันไม่มีทางเลือกและนี่ก็เป็นสถานที่เดียวที่เธอรู้จัก
ห้องบรรทมของฮ่องเต้ในราชวงศ์โยงหนิง
ถูกเรียกว่าตำหนักมังกร หลังจากหนิง เสี่ยวเหยา กระโดดข้ามกำแพงและหนีไป พระพันปีเต็มไปด้วยความโกรธและได้สั่งให้จับกุมขันทีไปจำนวนมาก
ตอนนี้ทุกคนรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นหนิง เสี่ยวเหยา อุ้มคนที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยเสื้อคลุมยาวพร้อมกับผู้ชายที่ดูแข็งแกร่งเดินตามหลังนางมา
ขันทีก็สูญเสียความหวังทั้งหมดของพวกเขาไป พวกเขาจะอธิบายเรื่องนี้ต่อพระพันปีอย่างไร
หลังจากที่ฮ่องเต้เสด็จออกไปก็กลับมาพร้อมกับคนเหล่านี้?
หนิง เสี่ยวเหยา
เตะประตูด้วยเท้าของเธอและเดินเข้าไปข้างใน ก่อนที่จะวางโหลว จื่อกุ้ย ลงไปบนเตียงโดยไม่ได้คิดอะไรแม้แต่น้อย
แม่ทัพที่ติดตามเธอมาได้สูญเสียความมีสติของเขาไปกับการได้เข้ามาอยู่ในตำหนักของฮ่องเต้และการกระทำของหนิง
เสี่ยวเหยา หนึ่งในนั้นยกมือขึ้นและถามขึ้นทันที “พวกเรา ควร ควรจะไปตาหมอหรือไม่?"
ฟางถังตะโกนขึ้น "ไม่มีหมอหลวงหรืออย่างไร?"
เมื่อฟางถังตะโกนคำเหล่านั้นขึ้น
แม่ทัพนายพลที่เหลือก็กลับมามีสติของพวกเขาอีกครั้ง ท่านพ่อและท่านแม่ นี่คือตำหนักของฮ่องเต้!
ขณะที่พวกเขาหยุดมองไปรอบ ๆ ห้อง พวกเขาค้นพบการตกแต่งภายในนั้นงดงามและตระการตามาก
แม้แต่คานหลังคายังถูกแกะสลักด้วยมังกร ในขณะที่ท่านแม่ทัพสูงสุดของพวกเขาอยู่บนเตียง
... แม่ทัพนายพลทั้งหมดต่างก็สั่นคลอนขึ้นทันที
นั่นคือเตียงมังกร!
"ออกไป"โหลว จื่อกุ้ยสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาในขณะที่เขาลืมตาขึ้นเสียงของเขาสั่นเป็นสัญญาณของความอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก
"ท่านแม่ทัพสูงสุด?" แม่ทัพไม่สนใจในความหมายของเขา
ตอนนี้เป็นเวลาที่จะไล่พวกเขาออกไปหรือ?!
"นี่คือตำหนักมังกร" โหลว
จื่อกุ้ย ต้องการที่จะลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ล้มเหลวหลังจากผ่านไปไม่กี่ครั้งเขาก็ต้องนอนราบลงบนเตียง
ในขณะที่เขาพูดกับคนของเขาขึ้น "นี่มันเป็นสถานที่ที่พวกเจ้าจะสามารถเข้ามาได้ง่ายๆ
หรือ? ออกไป!"
"เดี๋ยวก่อนๆ " ตอนนี้หนิง
เสี่ยวเหยาไม่พอใจเล็กน้อย เธอไม่เคยเห็นใครทำรุนแรงเช่นนี้กับผู้ที่ช่วยชีวิตเขามาก่อน
"ทำไมเจ้าจึงโกรธมากเช่นนี้ด้วย? เจ้าพูดดีๆ ไม่ได้หรือไง? "
"ออกไป!" โหลว จื่อกุ้ย ใช้กำลังทั้งหมดเพื่อตะโกน
ก่อนที่จะจ้องมองไปยังดาบที่อยู่ที่เอวของฟางถัง
ในที่สุดแม่ทัพนายพลก็เข้าใจความหมายของโหลว
จื่อกุ้ย ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดถือดาบติดตัวของพวกเขา
ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้ในอนาคตก็คงจะต้องโทษประหารชีวิต
พวกเขาเหลือบมองไปที่ใบหน้าเล็กๆ ของหนิง เสี่ยวเหยา และคิดว่าฝ่าบาทคงจะไม่วางแผนฆ่าท่านแม่ทัพสูงสุดของพวกเขาใช่ไหม
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องการ ตราบใดที่ท่านแม่ทัพสูงสุดยังมีลมหายใจที่จะร้องออกมา พวกเขาก็จะวิ่งเข้าไปหาเขาเพื่อช่วยเขาให้พ้นจากร่างเล็ก
ๆนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาถอยหลังเพื่อออกไปรอด้านนอกหลังจากที่ทำความเคาพต่อหนิง
เสี่ยวเหยาแล้ว
หนิง
เสี่ยวเหยาไม่รู้ว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่ หลังจากที่มองดูแม่ทัพนายพลออกจากห้องไป
เธอก็จะหันกลับมามองที่โหลว จื่อกุ้ย
ตอนนี้คนผู้นี้ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว
แล้วเธอควรจะทำอะไรต่อไปดี? โหลว จื่อกุ้ย ก็มองมาที่หนิง
เสี่ยวเหยาด้วยเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อฮ่องเต้ไม่พูดเขาก็พูดขึ้น
"ฝ่าบาท องค์รัชทายาทและกระหม่อมเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่กลายมาเป็นเพื่อน
กระหม่อมเห็นเขาเป็นเหมือนพี่ชายอยู่เสมอ "
"... ... " หนิง เสี่ยวเหยา ไม่มีคำพูด แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอว่าเพื่อนเขาเขาจะเป็นใครและเขาจะมีความรู้สึกอย่างไร?