ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ขอหยุดสองอาทิตย์นะคะ

สวัสดีค่ะรีดที่น่ารักทุกคน ผูู้แปลขอแจ้งให้ทราบทั่วกันนะคะ ผู้แปลขอหยุดสองอาทิตย์นะคะ ผู้แปลจะออกทริปกับเพื่อนๆ ขอไปเที่ยวแก้เหนื่อยหน่อยนะคะ แล้วจะกลับมาวันที่ 17 นะคะ

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 11:ท่านอุปราชบอกว่ามียาพิษ




          เมื่อรถม้าของอุปราชเซี่ย จากไป พระพันปีเซี่ย ก็ยกม่านมุกของรถม้าของนางที่จอดไว้ตรงมุมถนนขึ้น นางเฝ้ามองรถคันนั้นผ่านรถม้าของนางไปความโกรธเต้นอยู่ในดวงตาของนาง นางดึงมือของนางกลับไปและปล่อยผ้าม่านมุกลง 

          ไม่นานหลังจากนั้นฝูงชนก็แยกย้ายกันออกจากพื้นที่ของลานประหาร แล้วก็มีกลุ่มคนสองสามคนเดินผ่านรถม้าของนางไป ทุกคนต่างก็กำลังพูดถึงเรื่องที่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ปรากฏตัวขึ้นและพาผู้ทรยศอย่างโหลว จื่อกุ้ยกลับไป ไม่ว่าจะเป็นความผิดของโหลว จื่อกุ้ย ที่เต็มไปด้วยความน่าสงสัยหรือเพราะฝ่าบาทต้องการที่จะช่วยเขา ทั้งสองความลับก็เป็นเรื่องที่น่าถูกพูดถึงมากที่สุด และแม้จะมีการโต้เถียงกันจนกว่าหูของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่คนเหล่านี้ก็อาจจะไม่ได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ

          ในที่สุดกลุ่มฝูงชนก็จากไปจนหมด ท่านอุปราชเซี่ย ก็มายืนอยู่หน้ารถ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ "พระพันปี"

          ประตูถูกเปิดจากด้านใน ขณะที่แม่นมลงมาจากรถเพื่อทำความเคารพและเชิญเขาเข้าไปข้างใน อุปราชเซี่ย เข้าไปในรถม้า ก่อนจะได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งถามเขาขึ้น "มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?"

          อุปราชเซี่ย เหลือบมองไปที่พระพันปี คนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

          "หนิงหยู นาง นางกล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร ... " พระพันปีกำกำปั้นของนางแน่ พยายามควบคุมอารมณ์ของนางเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

          "พระนาง โปรดสงบความโกรธของพระนางลงก่อน" อุปราชเซี่ยพูดขึ้น
  
          "นางรู้ไหมว่าโหลว จื่อกุ้ย จะต้องแก้แค้นแทนองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน?" พระพันปีถามขึ้น "นางเคยพับกับโหลว จื่อกุ้ย มาก่อนหรือไม่?"

          "เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้" อุปราชเซี่ย ส่ายหัวและปฏิเสธขึ้น หนิงหยู ได้ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในอาณาเขตที่ดินของเขาซึ่งแทบจะถูกแยกออกจากโลกภายนอก นอกเหนือจากแม่นมของนางแล้ว นางก็ไม่มีใครอีก แล้วนางจะได้พบโหลว จื่อกุ้ย ได้อย่างไร?

          พระพันปีนั่งอยู่อย่างครุ่นคิด ก่อนที่จะถามขึ้นทันที "ทำไมท่านพ่อถึงยอมรับตัวตนของนางที่ลานประหารเช่นนั้น?"

          อุปราชเซี่ยเข้าใจความหมายของลูกสาวคนโตของเขา ถ้าเขาไม่ได้ยอมรับตัวตนของหนิงหยู มันก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่นางจะช่วยโหลว จื่อกุ้ยเอาไว้

          "ถ้าท่านไม่ยอมรับนาง พวกเราอาจจะให้ใครบางคนมาแกล้งทำเป็นนางก็ได้!" พระพันปีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ นางนั่งอยู่ในเงามืดภายในรถม้าของนาง ร่างทั้งร่างจมลงไปในความมืดมิด

          "พระนาง อย่างไรนางก็เป็นลูกสาวของพระนาง" อุปราชเซี่ยเตือนขึ้น

          "ข้าจะต้องการลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังข้าเช่นนั้นไปทำไม?" พระพันปีพูดขึ้น

          อุปราช เงียบก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นและมองไปที่นาง"พระนาง ตอนนี้มันก็เป็นเช่นนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่พระนางต้องโกรธเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม” เขาหยุดชั่วคราวก่อนที่จะพูดต่อ "อย่างไรก็ตามโหลว จื่อกุ้ย จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน"

          ดวงตาของพระพันปีส่องประกายจาง ๆ ขึ้น ในเวลาเดียวกันลูกแมวที่มีผอมราวกับกระดูกก็วิ่งข้ามถนน ก่อนจะก้มร่างของมันลงและซ่อนตัวอยู่ใต้รถ

          "มันมีพิษอยู่ที่ใบมีดที่ใช้โดยมือสังหาร มันเพียงพอที่จะทำให้โหลว จื่อกุ้ย เจ็บปวดอย่างรุนแรงโดยไม่ต้องฆ่าเขา และพิษนี้จะจบมีชีวิตของเขาลงอย่างแน่นอนภายในสามวัน "อุปราชพูดขึ้น 

          ได้ยินเช่นนี้ พระพันปีก็ถอยหายใจออกมา และการแสดงออกของนางก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง "ทำไมท่านพ่อไม่พูดให้มันเร็วกว่านี้?" ในฐานะพระพันปีนางไม่มีเจตนาที่จะร่วมแบ่งปันอำนาจกับบิดาของนางแม้แต่น้อย

          อุปราชเซี่ย ยิ้มขึ้น "เขาเป็นแม่ทัพของกองกำลังทหารม้าพิเศษและยังเป็นแม่ทัพสูงสุดของหกเขตในอันหย่วน กระหม่อมกลัวว่าจะไม่สามารถหยุดทหารเหล่านั้นได้หากเกิดปัญหาขึ้น แต่การวางยาพิษบนใบมีดจะช่วยทำให้โหลว จื่อกุ้ย เสียชีวิตลงอย่างแน่นอน ภายใต้สถานการณ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้ กระหม่อมเลือกที่จะเงียบไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูดเปิดเผย นอกจากนี้การวางยาพิษเพื่อทำให้คนตายก็ยังไม่เหมาะสำหรับการอภิปรายต่อหน้าสาธารณะชน "

          "นานแค่ไหนที่ท่านวางแผนจะเก็บคนเก่าแก่ของตระกูลโหลวที่อยู่ในพระราชวังไว้?" พระพันปีถามอย่างเยือกเย็นขึ้น

          "พระนาง ไม่จำเป็นต้องกังวล" อุปราช ตอบขึ้น "เมื่อโหลว จื่อกุ้ย ตายจะไม่มีใครในตระกูลโหลวเหลืออีก นอกเหนือจากเด็กป่วยคนหนึ่ง มีอะไรที่ต้องกลัว? สำหรับคนที่อยู่ภายในตำหนักมังกรนั้น พวกเราสามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างช้าๆเมื่อสูญเสียหัวหน้าไป แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงยืนยันคำตัดสินของโหลว จื่อกุ้ย แต่มันก็คงจะไม่อะไรต่างไปเมื่อคนตายไปแล้ว ไม่ใช่หรือ? "

          การแสดงออกของพระพันปีกลับมาเป็นปกติ ดูเหมือนนางจะเชื่อคำพูดของอุปราชเซี่ยอย่างเต็มหัวใจ  

          "ข้าหวังว่าพระนางจะสามารถมองเข้าไปในความคิดของฝ่าบาทได้" เมื่อเทียบกับโหลว จื่อกุ้ย ที่อยู่หน้าประตูมรณะ อุปราชเซี่ย กังวลเรื่องของหนิง เสี่ยวเหยา มากกว่า เขาถามอย่างเงียบ ๆ ขึ้นทันที "มีใครไปปลุกใจนางหรือไม่? แล้วนางรู้เกี่ยวกับเรื่องของโหลว จื่อกุ้ย ได้อย่างไร? เป็นฟางถังหรือไม่? "

          พระพันปีส่ายหัว "ก่อนที่ฝางถังจะพูดจบฝ่าบาทก็หมดสติไป มันไม่น่าจะใช่เขา "

          "เช่นนั้น หรือว่าคนรับใช้ข้างกายของฝ่าบาท?"

          "คนเหล่านั้น ต่างก็เป็นคนที่ข้าเลือกเอง ไม่มีทางที่พวกเขาจะสร้างปัญหา"

          "แล้วทั้งหมดนี้มันคืออะไร?" อุปราชเซี่ย รู้สึกกระวนกระวายใจ

          ใบหน้าของพระพันปีจมดิ่งลงอีกครั้ง "เราต้องหาคนผู้นั้น!"