ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 30:2 ฟันทอง


ปู่นกกระจอกจ้องมองไปที่หนิง เสี่ยวเหยา นกกระจอกจะขโมยของจากมนุษย์ได้อย่างไร? พวกเขาป่วยจนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?

"พวกเจ้าต้องล่อคนป่าเถื่อนแคว้นฮูเหนือให้มาเห็นท่านแม่ทัพสูงสุดเท่านั้น" หนิง เสี่ยวเหยาพูดขึ้น "เมื่อพวกเขาเห็นท่านแม่ทัพสูงสุด พวกเขาจะต้องมาฆ่าเขาแน่นอน"

หัวหน้าแมวดำปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของหนิง เสี่ยวเหยาอย่างรวดเร็ว "แล้วจะขโมยอะไร?"

 “อะไรก็ได้” หนิง เสี่ยวเหยาพูดขึ้น "ตราบใดที่มันเป็นสมบัติของแคว้นฮูเหนือ มันก็จะได้ผล"

ปู่นกกระจอกค่อย ๆ กัดขนมปังนึ่งจากมือของหนิง เสี่ยวเหยา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา "ท่านแม่ทัพสูงสุดเป็นคนดี"

หนิง เสี่ยวเหยาและหัวหน้าแมวดำ ทั้งสองต่างก็พยักหน้า

"เช่นนั้นข้าก็จะช่วยเจ้าในเรื่องนี้เสี่ยวเหยา" ปู่นกกระจอกพูดขึ้น\

"ขอบคุณปู่นกกระจอก!" หนิง เสี่ยวเหยา ยกเขาขึ้นและจูบหัวเล็ก ๆ ของเขา ปู่นกกระจอกรีบบินออกไปจากมือของหนิง เสี่ยวเหยาทันที ชายและหญิงไม่ควรสนิทสนมเสี่ยวเหยา เข้าใจหรือไม่ อ่า จิ๊บๆ ~

"พรุ่งนี้ข้าก็อยากจะไปด้วย" หัวหน้าแมวดำพูดขึ้น

"ข้าจะไปต่อสู้ แล้วเจ้าจะไปทำอะไร?" หนิง เสี่ยวเหยาถามขึ้น

หัวหน้าแมวดำแสดงให้เห็นถึงกรงเล็บของเขา "ข้าสามารถขีดข่วนคนแคว้นฮูเหนือให้ตายได้"

ริมฝีปากของหนิง เสี่ยวเหยาถึงกับกระตุก หากเจ้ามีทักษะเช่นนั้น ทำไมไม่ขีดข่วนพ่อลูกตระกูลเซี่ยให้ตายไปซะ?

จากด้านนอกกำแพง เสียงของคนบอกเวลาในกลางคืนก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝนตกปรอยๆลงมาจากฟากฟ้า หนิง เสี่ยวเหยา พาหัวหน้าแมวดำ เข้ามาในห้อง เธอวางเขาไว้บนโซฟา ก่อนจะนอนลงไปข้างโหลว จื่อกุ้ย ในเมื่อพวกเขาต้องต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ เธอก็ต้องการนอนสักหน่อย เมื่อโหลว จื่อกุ้ยผลิกตัวมา หนิง เสี่ยวเหยา ที่กำลังอยู่ในระหว่างการทำความสะอาดตัวเอง ร่างทั้งร่างของเธอจึงห่อหุ้มไปด้วยแสงสีเขียวอ่อนๆ โหลว จื่อกุ้ย ยกมือขึ้นและกอดหนิง เสี่ยวเหยาเอาไว้อย่างพอใจในขณะที่นอนหลับ ริมฝีปากของเขาวางอยู่บนใบหน้าของหนิง เสี่ยวเหยา ราวกับว่าเขาได้พบสมบัติล้ำค่าที่หายไป

 “… …” หนิง เสี่ยวเหยาถึงกับไร้คำพูด พวกเขาไม่สามารถกล่าวหาว่าเธอขโมยความบริสุทธิ์ของท่านแม่ทัพสูงสุดในเวลานี้ใช่ไหม? ยิ่งไปกว่านี้ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดว่าเธอเป็นหมอนข้างอยู่หรือ?

ฝนตกปรอยๆตลอดทั้งคืน และวันรุ่งขึ้นจนถึงค่ำ หนิง เสี่ยวเหยา ก็ใช้เวลาทั้งวัน กินและดื่มในขณะที่เธอเริ่มจะคุ้นเคยกับฟาง และลูกน้องคนอื่นๆของ เงาพายุ เมื่อกลางคืนมาถึง เธอก็มองดูพวกองครักษ์มังกรพิทักษ์และคนของซองจินเดินออกจากวังไปในชุดลำลอง ก่อนที่จะหาวและอุ้มโหลว จื่อกุ้ยคนที่ยังคงหลับอยู่ขึ้นไปในรถม้า

"สายลม ไปกันเถอะ" เธอบอกคนขับรถม้า

ทหารหลวงที่เฝ้าหน้าประตูดูเหมือนว่าเขาจะราวกับกลืนยาขมลงไปสามชาม เมื่อเขาเห็นหนิง เสี่ยวเหยา ยื่นหัวของเธอออกมาจากหน้าต่างรถม้า เขาก็ไม่อาจยับยั้งองค์รักมังกรพิทักษ์ได้ แล้วจะไปนับอะไรกับฝ่าบาท แต่เขาควรจะอธิบายสิ่งต่างๆให้พระพันปีฟังว่าอย่างไร?

"ท่านแม่ทัพสูงสุดรู้สึกไม่ค่อยดีนัก" หนิง เสี่ยวเหยา โกหกโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย "ข้าจะพาเขาออกไปจากพระราชวังเพื่อไปหาหมอ"

ทหารหลวงรีบตอบรับขึ้นทันที"กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

เงาพายุตีแส้ที่อยู่ในมือของเขาและรถม้าก็วิ่งออกจากประตูพระราชวังไป หนิง เสี่ยวเหยาเพิ่งจะออกไป แต่พระพันปีก็ได้รับข่าวแล้ว

"ฝ่าบาททรงกล่าวว่าท่านแม่ทัพสูงสุดรู้สึกไม่ค่อยจะดีนักหรือ?" พระพันปีถามหัวหน้าขันทีที่มารายงานขึ้น

"พ่ะย่ะค่ะ" ขันทีรีบตอนขึ้นในขณะที่คำนับลง "ฝ่าบาทพาท่านแม่ทัพสูงสุดออกจากวังเพื่อไปหาหมอพ่ะย่ะค่ะ"

ไม่มีใครกล้าพูดขึ้น หากเป็นปัญหาเรื่องความเจ็บป่วยมีหมอหลวงรอปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ตำหนักหมอหลวงอยู่ตลอดทั้งวันและคืน แต่ฝ่าบากกลับไม่ทรงเรียกหมอหลวง แต่กลับออกไปหาหมอข้างนอก นี่ไม่ได้บอกแก่ทุกคนอย่างชัดเจนหรือว่าพระองค์ไม่ไว้ใจหมอหลวงหรือพระพันปีผู้ที่รับผิดชอบเรื่องต่างๆ ภายในพระราชวัง?

พระพันปีถอยหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นอย่างอ่อนเพลียเพื่อบอกให้ขันทีออกไปได้ นางดูเหมือนจะรู้สึกเศร้าใจ แต่ก็มีรอยยิ้มที่เหน็บหนาวอยู่ในใจของนาง โหลว จื่อกุ้ย ถูกวางยาพิษดังนั้นร่างกายของเขาจะไม่ดีขึ้น นางต้องการจะดูว่าลูกสาวของนางจะเป็นอย่างไรหลังจากที่โหลว เสียชีวิตไป
เมื่อโหลว จื่อกุ้ยได้ยินเสียงล้อรถดังขึ้น ดวงตาของเขาก็ลืมขึ้นอย่างตื่นตัว ทำไมพระราชวังมีเสียงเหมือนล้อเลื่อน? ภาพตรงหน้าของเขาเป็นรอยยิ้มที่ยังคงมีร่องรอยราวกับทารกอยู่

"ตื่นแล้วหรือ" หนิง เสี่ยวเหยา ยิ้มให้กับโหลว จื่อกุ้ย

"เหมียว" หัวหน้าแมวดำทักทายเขาในขณะที่จ้องมองไปที่โหลว จื่อกุ้ย

โหลว จื่อกุ้ย ลุกขึ้นนั่งและมองไปที่หนิง เสี่ยวเหยา ก่อนจะมองไปด้านในของรถม้า ก่อนที่จะถามด้วยเสียงต่ำขึ้น "พวกเราจะไปที่ไหนกัน?"

"หอรัญจวน" หนิง เสี่ยวเหยาตอบ

"ที่ไหนนะ?" โหลว จื่อกุ้ย คิดว่าเขาได้ยินผิดไป ทำไมผู้หญิงคนนี้จะพาเขาไปที่ซ่องโสเภณีที่โด่งดังที่สุดของเมืองหลวง?

หนิง เสี่ยวเหยาคิดเกี่ยวกับคำพูดของเธอ มันก็ไม่มีข้อไหนผิดพลาด ซองจินได้บอกว่ามันคือ 'หอรัญจวน' เมื่อคืนนี้ "หอรัญจวน" หนิง เสี่ยวเหยาพูดขึ้นอีกครั้งอย่างมั่นใจ

"ไร้สาระ!"โหลว จื่อกุ้ยเต็มไปด้วยความโกรธ มีผู้หญิงที่ไหนพูดคุยเกี่ยวกับซ่อง?

“ท่านจะไม่ไปหรือ?”หนิง เสี่ยวเหยาถามขึ้น

"ไม่ เราจะกลับ" โหลว จื่อกุ้ยพูดขึ้น

การแสดงออกของหนิง เสี่ยวเหยาราวกับท่อนไม้ ก่อนที่จะพูดขึ้น "เราจะไป แม้ว่าท่านจะไม่ต้องการก็ตาม วันนี้เรามีเรื่องใหญ่ที่จะต้องทำให้สำเร็จ ทั้งหมดที่ท่านจะต้องทำก็เพียงทำใบหน้าให้สดใสเท่านั้น"

โหลว จื่อกุ้ย ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจคนผู้นี้เมื่อนางพูด? "ทำใบหน้าให้สดใส่หรือ? ข้าควรจะทำอย่างไร? "

"มันหมายถึงท่านแค่ต้องแสดงใบหน้าของท่านเท่านั้น"หนิง เสี่ยวเหยารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย มันยากที่จะเชื่อมโยงกันเมื่อภาษาของเจ้าวิ่งไปตามระบบที่แตกต่างกัน

พาเขาไปที่ซ่องโสเภณีเพื่อแสดงใบหน้าของเขาหรือ? โหลว จื่อกุ้ย ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหนิง เสี่ยวเหยากำลังวางแผนอะไรอยู่!

"ฝ่าบาท" เสียงเรียกของฟางถังดังขึ้นจากด้านนอก หนิง เสี่ยวเหยารีบ  ยกผ้าม่านขึ้นทันที

"นกหัวขโมย!" เสียงร้องดังออกมาจากข้างหลังรถม้าพร้อมกับเสียงหัวเราะ นกกระจอกบินผ่านหน้าต่างและคลายกรงเล็บของมันออก ก่อนจะทิ้งวัตถุสีทองขึ้นเงาลงมาในรถม้า หนิง เสี่ยวเหยา หยิบมันขึ้นและเห็นว่ามันเป็นฟันสีทอง แม้ว่ารูปทรงไม่ดีเท่าคนที่มาจากโลกที่กำลังจะแตกของเธอ แต่ก็เป็นฟันอย่างไม่ต้องสงสัย เสียงเชียร์ดังออกมาจากหมู่นกกระจอกบนผนังใกล้ ๆ หนิง เสี่ยวเหยาสังเกตุเห็นปู่นกกระจอกอยู่ภายในฝูงชนนกกระจอกด้วย

"ทำให้สำเสร็จ" ปู่นกกระจอกตะโกนใส่หนิง เสี่ยวเหยา "เจ้าต้องเรียกคืนความบริสุทธิ์ของท่านแม่ทัพสูงมาให้ได้ จิ๊บๆ~"

หนิง เสี่ยวเหยาพยักหน้าให้ปู่นกกระจอก เธอจะทำเช่นนั้นแน่นอน!

ท่านแม่ทัพสูงสุดโหลว ถึงกับพูดไม่ออก คนผู้นี้กำลังทำอะไร พยักหน้าให้กับหน้าต่างในขณะที่ถือฟันสีทองที่ส่งมาโดยนกกระจอกหรือ? หรือว่านางถูกเข้าสิง