ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 7: มหาอุปราช




          หนิง เสี่ยวเหยา ตกใจกับการกระทำของประชาชนเช่นกัน ในโลกที่กำลังจะแตกของเธอ ซอมบี้เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของมนุษยชาติ แต่เธอไม่เคยคาดหวังว่ามนุษย์ผู้หนึ่งจะกลายเป็นศัตรูของประชาชนได้เช่นกัน หรือว่าคนพวกนี้ได้รับไวรัสซอมบี้มาหรือไม่?

          แล้วจู่ๆ สมาชิกที่โกรธแค้นไม่กี่คนที่วิ่งตรงเข้าไปยังแท่นประหาร ทหารที่เฝ้าประตูทางเข้าได้รับการแนะนำอย่างชัดแจ้งจากผู้บังคับบัญชาของพวกเขามาก่อนแล้ว เพราะสิ่งที่พวกเขาทำก็คือแสร้งทำเป็นควบคุมฝูงชนก่อนที่จะปล่อยให้พวกเขาวิ่งเข้าไปหาโหลว จื่อกุ้ย และปล่อยให้พวกเขารุมโหลว จื่อกุ้ยเอาไว้ ก่อนที่จะเปิดปากของพวกเขาและพยายามกัดกินโหลว จื่อกุ้ย ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

          ฟางถังร้องตะโกนขึ้นและรีบวิ่งเข้าไปในฝูงชน เพื่อที่จะวิ่งขึ้นไปบนแท่นประหาร แม่ทัพนายทหารระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่ตามมาได้วิ่งตามเขาไปด้วย ดวงตาของพวกเขาแดงก่ำ ในขณะที่พวกเขาวิ่งผ่านฝูงชนเข้าไป การที่ได้เห็นบางอย่างด้วยตาของพวกเขามันต่างจากสิ่งที่ได้ยิน ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถยับยั้งความคิดของพวกเขาได้เพราะครอบครัวของพวกเขา แต่ตอนนี้โหลว จื่อกุ้ย กำลังจะถูกกินในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ คนที่ต่อสู้กับเขาในสนามรบจึงไม่สามารถทนยืนเฉยอยู่ได้

          ฟางถังเตะและต่อยเพื่อเปิดเส้นทางและวิ่งขึ้นไปแท่นประหาร ปากของเขาเต็มไปด้วยเสียงตะโกนคำว่า 'ท่านแม่ทัพสูงสุดๆ' ขณะที่หทารบนแท่นประหารขวางทางเขาเอาไว้ ขุนนางที่อยู่บนแท่นรับชมการประหารเริ่มหงุดหงิด เมื่อพวกเขาได้เห็นฟางถังและคนอื่นๆ กำลังต่อสู้กับทหารทั้งหลาย หน้าตาของ อุปราช ดูจะตกตะลึงเช่นกัน แต่เขาก็ยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นในใจของเขา เขาได้สั่งให้ทหารองครักษ์ของวังหลวงปล่อยให้ฟางถังวิ่งเข้าไปในพระราชวังก็เพียงเพื่อที่เขาจะได้นำแม่ทัพระรับสูงที่เหลือของโหลว จื่อกุ้ย มาสู่ความตาย ตอนนี้พวกเขาต้องการจะมาหาความตายด้วยตัวเองเช่นนี้ ทำไมเขาถึงจะไม่ยอมช่วยเหลือพวกเขาเล่า?

          หนิง เสี่ยวเหยา เห็นคนมากขึ้นวิ่งไปฉีกและกัดกินท่านแม่ทัพสูงสุดโหลว จื่อกุ้ย และรู้สึกช่วยไม่ได้เล็กน้อย ความเป็นปฏิปักษ์ของพวกเขาเป็นอย่างไรกัน? แต่เธอก็สงบลงได้อย่างรวดเร็ว การกินคนร่วมกันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ในโลกที่กำลังจะแตกที่มีซอมบี้กินมนุษย์ทุกวัน เธอกระโจมเข้าไปในลานประหารก่อนที่จะได้เห็นชายชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาวที่มีเครายาวนั่งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งหลัก

          "นั่นคือท่านมหารอุปราชหรือ” หนิง เสี่ยวเหยา ถามแม่ทัพนายผลที่ยังยืนอยู่ข้างๆเธอขึ้น

          แม่ทัพนายผลยังคงจมอยู่กับความเศร้าโศกและความไม่พอใจของเขาในขณะที่เขามองตามนิ้วที่ชี้ไปของหนิง เสี่ยวเหยา เขาไม่ได้มีโอกาสพิจารณาว่าทำไมฮ่องเต้จึงไม่รู้จักมหาอุปราชผู้นี้ได้ แต่ก็ยังคงพยักหน้าเพื่อยืนยันคำพูดของนาง "พ่ะย่ะค่ะ"

          หนิง เสี่ยวเหยา พยักหน้าและก้าวไปข้างหน้าเพื่อเข้าไปอยู่ฝูงชน ด้วยความแข็งแรงของเธอ มันจึงเป็นเรื่องง่ายพอที่จะทำให้เธอสามารถเปิดเส้นทางผ่านคนที่ขวางทางเธอเข้าไปได้ แม่ทัพนายพลที่อยู่ข้างๆ รู้สึกว่าความหวังของเขาทะยานขึ้นฟ้า เมื่อเขาเห็นหนิง เสี่ยวเหยาเดินไปทางลานประหารชีวิต ฮ่องเต้มีพระประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ท่านแม่ทัพสูงสุดจริงๆ

          เมื่อ หนิง เสี่ยวเหยา มาถึงจุดประหารชีวิต เธอก็ค้นพบปัญหา เธอจะทำอย่างไรหากอุปราช ปฏิเสธตัวตนของเธอ หลังจากที่เธอกระโดดขึ้นไปช่วยชีวิตคนแล้ว? ตลอดเส้นทางไม่มีใครเรียกเธอว่าฮ่องเต้สักคน ดูเหมือนว่ามีเพียงบางคนเท่านั้นที่รู้จักเธอในฐานะฮ่องเต้ ถ้าอุปราชและพระพันปี สามารถให้เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายได้ เพื่อหลอกว่าเธอเป็นฮ่องเต้ เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะสามารถหาคนอื่นมาแกล้งทำเป็นเธอได้เช่นกัน! เมื่อคิดได้เช่นนี้ หนิง เสี่ยวเหยาก็ตระหนักว่าเธอต้องใช้หัวของเธอแล้ว

          "ฝ่าบาท!" แม่ทัพนายพลที่อยู่ข้างหลัง หนิง เสี่ยวเหยาตะโกนขึ้น

          หนิง เสี่ยวเหยา ตบหน้าผากของเธอ ก่อนที่จะคว้ามือของแม่ทัพนายพลและถึงมาจับไว้ที่รอบคอของเธอ เธอหันไปเผชิญหน้าแท่นที่นั่งในการชมการประหารและตะโกนขึ้นจนสุดปอดของเธอ "ท่านอุปราช ช่วยข้าด้วย!"

          หนิง เสี่ยวเหยา ใช้เสียงทั้งหมดของเธอเพื่อที่จะตะโกนผ่านฝูงชนไป เสียงสาปแช่งของฝูงชนเงียบลง เมื่ออุปราชเห็นว่านั้นเป็นหนิง เสี่ยวเหยา ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน เขาก็กระโดดออกจากที่นั่งของเขาทันที

          "คนของโหลว จื่อกุ้ย ต้องการจะฆ่าข้า!" หนิง เสี่ยวเหยายังคงร้องตะโกนต่อไป

          แม้แต่คนที่มีมาจากโลกที่กำลังจะแตกอย่าง หนิง เสี่ยวเหยา เธอก็เข้าใจว่าการสังหารฮ่องเต้เป็นความผิดร้ายแรง หลังจากที่เห็นว่าอุปราชต้องการให้ท่านแม่ทัพสูงสุดตายมากแค่ไหน จึงอาจตัดสินได้จากมุมมองทางจิตวิทยาว่าชายชราคนนี้ต้องเกลียดชังท่านแม่ทัพสูงสุดเป็นอย่างมาก ด้วยความเกลียดชังอย่างมาก เขาคงจะยินดีที่จะเพิ่มอาญาให้กับท่านแม่ทัพสูงสุดมากขึ้นไปอีก นี่เป็นเหตุผลเบื้องหลังการตีม้าที่ตายไปแล้ว 

          ตามที่คาดไว้ อุปราชได้วิ่งไปที่ขอบของแท่นรับชมการประหารทันทีที่เขาได้ยินหนิง เสี่ยวเหยาพูดขึ้นว่า คนของโหลว จื่อกุ้ย วางแผนจะฆ่านาง เขาจ้องมองมาที่หนิง เสี่ยวเหยา อย่างจดจ่อก่อนที่การแสดงของเขาจะเปลี่ยนเป็นซีดด้วยตกใจ เขาคุกเข่าลงบนแท่นรับชมและร้องขึ้น "ฝ่าบาท พระองค์จริงๆด้วย เร็วเข้ารีบไปช่วยฝ่าบาเร็ว! "

          ฟางถังสูญเสียความหวังทั้งหมด พวกเขาถูกหลอกแล้ว

          หนิง เสี่ยวเหยาร้องขึ้น “ท่านอุปราช!

          "ฝ่าบาทไม่ต้องกลัวนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยู่ที่นี่แล้ว! "

          หนิง เสี่ยวเหยายังตะโกนขึ้น "ท่านอุปราช ท่านต้องช่วยข้านะ!"

          อุปราชตอบขึ้น "ฝ่าบาทไม่กลัวพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมต้องช่วยพระองค์อย่างแน่นอน! "

          ในใจของหนิง เสี่ยวเหยา มีคนตัวเล็กๆ กำลังทำเครื่องหมาย "V" ขึ้นด้วยมือ ทั้งหมดนี้ถูกต้องแล้ว ตอนนี้ชายแก่ผู้นี้ได้บอกถึงฐานะของเธอในฐานะฮ่องเต้แล้ว เธอนี่ฉลาดจริงๆ