ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Stunning Edge(นิยายแปล) ตอนที่ 82 : แยกจาก



แคลร์มองไปที่หลิงอวี้นที่กำลังมีรอยยิ้มประดับหน้าอยู่ในตอนนี้ เธอไม่รู้ว่ามันจะเป็นเพราะเธอเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า แต่เธอกลับมีความรู้สึกเหมือนกับว่ารอยยิ้มในตอนนี้ของ ผู้ชายที่เยือกเย็นผู้นี้ มันกลับดูเหมือนจริงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

“เจ้าชายรู้ได้เช่นไรว่าข้าอยู่ที่นี่”แคลร์ยิ้มก่อนจะถามออกไป

“หรือว่าเจ้าชายมาที่นี่ด้วยธุระที่ต้องจัดการ”

“เพราะซวนซวน อยากจะพบท่านหญิง ข้าจึงได้พาซวนซวนไปหาท่านที่ปราสาทฮิลล์ แต่ท่านหญิงไม่ได้อยู่ที่นั้น ดยุคกอร์ดอนบอกว่าท่านหญิงจะมาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตอนนี้ท่านหญิงกำลังจะเดินทางกลับแล้วใช่หรือไม่”หลิงอวี้นยกยิ้มขึ้นเบาบาง ก่อนจะพูดขึ้นอีก

“ส่วนข้ามาที่นี่เพราะธุรของวิหารแห่งแสง มีบางอย่างที่ต้องจัดการ”

“เป็นเช่นนั้นเองหรือ ใช่แล้วตอนนี้พวกเรากำลังจะเดินทางกลับ แล้วซวนซวยเป็นอย่างไรบาง”แล้วก็แคลร์เข้าใจได้ในทันที ก่อนจะนึกไปถึงสาวน้อยน่ารักผู้ลึกลับคนนั้น

“เช่นนั้นก็ดี ซวนซวนนั้นอยากจะพบท่านหญิงเป็นอย่างมาก”แล้วหลิงอวี้นก็พูดขึ้นอย่างจริงใจ

“ท่านหญิงแคลร์ ถ้าข้าจะขอติดค้างท่านหญิงสักครั้ง ท่านหญิงจะตกลงหรือไม่”

“ท่านต้องการให้ข้าไปพบกับซวนซวนใช่หรือไม่”แคลร์ยิ้ม เข้าใจได้โดยธรรมชาติว่าหลิงอวี้นต้องการจะพูดอะไร

“ใช่แล้ว ท่านหญิง ข้าหวังว่าท่านหญิงแคลร์จะตกลง”หลิงอวี้นพูดพร้อมกับรู้สึกอับอายเล็กน้อย

“ข้าไม่เคยเห็นซวนซวนเป็นกังวลต่อผู้อื่นได้มากขนาดนี้มาก่อน”

            “ตกลงข้าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ว่าซวนซวนอยู่ที่วิหารแห่งแสง มันจะดูไม่เหมาะสำหรับข้าหรือเปล่า” แคลร์พูดขึ้น

            “เจ้าหญิงแห่งแสงได้ให้สัญญาว่าจะพาซวนซวนไปพบท่านหญิงที่ปราสาท เมื่อท่านกลับไปถึง หวังแต่ว่าท่านหญิงแคลร์จะไม่เดินทางล่าช้า”หลิงอวี้นพูดติดตลกที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมมันยังไม่ตลกเลยแม้แต่น้อย

            “ฮ่าๆ เช่นนั้นพวกเราคงจะต้องขอตัวก่อน จะได้ไม่รบกวนเวลาของเจ้าชายในการไปจัดการธุระด้วย” ถึงแม้ว่ามันจะไม่ตลก แต่แคลร์ก็ยังแกล้งหัวเราะขึ้น

            วอลเตอร์รู้สึกผะอืดผะอมในสิ่งที่ได้ยิน แถมยังแอบชื่นชมทักษะของทั้งสอง ที่สามารถแสดงได้อย่างแนบเนียนอย่างต่อเนื่องเช่นนี้

            “เช่นนั้นท่านหญิงแคลร์ ข้าขอให้ท่านเดินทางโดยปลอดภัย”หลิงอวี้นพูดคำอำลา ก่อนจะมองไปเห็นกลุ่มคนของแคลร์ที่อยู่ทางด้านหลังไม่ไกลนัก ก่อนจะพูดขึ้นในน้ำเสียงที่ต่ำ

            “กลุ่มเพื่อนของท่านหญิงแคลร์ไม่เลวเลยจริงๆ”

            “ฮ่า ๆ ขอบคุณ”แคลร์ตอบกลับอย่างสุภาพ จากนั้นทั้งสองก็แยกจากกัน

            เมื่อร่างของหลิงอวี้น หายไปจากสายตาของทุกคน วอลเตอร์เริ่มต้นสร้างความสับสนวุ่นวายขึ้น

“ไม่ใช่ว่าเจ้าหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นมาที่นี่เพื่อเจ้าหรอกหรือ ข้านึกว่าเขามาที่นี่เพื่อเจ้าเสียอีก”

แคลร์เงียบลง แล้วในที่สุดเธอก็พูดกับวอลเตอร์ขึ้นอย่างช้าๆ

“มันควรจะเชื่อมต่อมาถึงข้าอยู่แล้ว วิหารแห่งแสงคงจะสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจมืดที่แข็งแกร่ง และกลิ่นอายที่หนาแน่น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาเจ้าชายแห่งแสงออกมา เพื่อทำการตรวจสอบหรือไม่ก็กำจัดมันหลังจากการตรวจสอบแล้ว”

“แล้วไงต่อ” วอลเตอร์ขมวดคิ้ว

“แต่เขายังไม่รู้ว่าข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”แคลร์พูดขึ้นเบาๆ

“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าทำไมน้องสาวของเขาถึงได้ทำตัวสนิทกับข้าเช่นนั้น แต่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีประโยชน์ เรามีโอกาสที่จะรู้การเคลื่อนไหวของวิหารแห่งแสงได้ และเราสามารถที่จะป้องกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้าได้ วิหารแห่งแสงนั้นเต็มไปด้วยความน่ากลัว เพียงแค่สองวันพวกเขาก็รีบส่งคนออกมาตรวบสอบแล้ว”

“วิหารแห่งแสงสร้างอยู่ในทุกประเทศ และมีการสร้างประตูเชื่อต่อเอาไว้” วอลเตอร์เดาะลิ้นเหยียดหยันขึ้นครั้งหนึ่ง

“ฮึ่ม! พวกเขากำลังสร้างมันขึ้นมาจาก เลือด เหงื่อ และน้ำตาของคนธรรมดาสามัญที่ต้องการหาเงิน มีคนจำนวนมากมีความยินดีที่จะบริจาคเงินให้กับพวกเขา”

ประตูเชื่อมต่อหรือ ไม่น่าเล่าหลิงอวี้นถึงได้มาที่นี่ได้รวดเร็วเช่นนี้ แถมกำลังจะออกไปตรวบสอบ แทนที่จะเป็นพึงมาถึง”

              “เติมเสบียงบางอย่างแล้วไปซื้อรถม้าเพื่อที่จะเดินทางบนถนนสายหลักกลับกันเถอะ” คลิฟรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย อารมณ์ของเขาในตอนนี้ไม่ดีเอาเสียเลย ตอนนี้การจะทำลายเครื่องหมายของแคลร์ก็ใช้ไม่ได้ แล้วเขาจะอารมณ์ดีได้อย่างไร

            “แคลร์”ในขณะที่แคลร์กำลังจะตอบกลับคลิฟไปนั้น น้ำเสียงที่จริงจังของกงหยูก็ดังมาจากด้านหลัง เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก

            “กงหยูมีอะไรหรือ”แคลร์หันไปมองที่กงหยู ก่อนจะเห็นการแสดงออกที่ดูเคร่งครึมของเขา โดยปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่กงหยูจะแสดงออกเช่นนี้ เขาจ้องมองมาอย่างแน่วแน่ เหมือนกับเขาได้ตัดสินใจแล้ว

            “แคลร์รอข้านะ ข้าจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งให้ได้ แล้วจากนั้นข้าจะกลับมา” กงหยูมองมองไปแคลร์ทุกคำพูดที่ออกมานั้นเต็มไปด้วยความจริงจัง

            แคลร์อึ้งไป ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้อยู่ชั่วครู่

            “เจ้าหนุ่มน้อย เจ้าจะจากไปแล้วหรือ”คลิฟกระพริบตาก่อนจะพูดขึ้นอย่างสับสน ผู้ชายคนนี้ได้มีทัศนคติที่จริงใจต่อแคลร์อย่างเห็นได้ชัด แล้วในตอนนี้เขากำลังจะจากไปจริงๆ

            “เพราะเขาคิดว่าเขาอ่อนแอเกินไป และไม่มีทางที่จะปกป้องเจ้าได้ ดังนั้นเขาจึงอยากจะแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นค่อยกลับมา”เหวินโม่ขดริมฝีปากของเขาก่อนจะพูดกับอีกคน

“แค่ไปทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ทำไมข้าจะต้องไปทนทุกข์กับเจ้าด้วยก็ไม่รู้”

จู่ๆ แคลร์ก็นึกขึ้นมาได้ว่าในการต่อสู้ครั้งนั้น เหวินโม่ได้หยุดกงหยูเอาไว้ จากการเปิดผนึกของเขา บอกว่าเขาไม่สามารถที่จะทนต่อพลังอำนาจนั้นได้ มันคืออะไรกันแน่

“ข้าจะกลับมา” กงหยูไม่ล่ะสายตาไปจากแคลร์

“ข้าจะกลับมาอย่างแน่นอน ข้าเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้า ข้าจะแต่งงานกับเจ้า”

แคลร์ถึงกับสูญเสียคำพูดของเธอไป ในความเป็นจริงตามลักษณะของกงหยู เขายังไม่ถึงสิบห้าเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่แคลร์อายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น หรือว่าผู้คนในโลกนี้จะเป็นผู้ใหญ่ก่อนอายุ หรือไม่ก็เป็นเพราะกงหยู ชานผู้นี้เขามีวิธีคิดที่ไม่เหมือนใคร

“พวกเจ้าจะจากไปตอนนี้เลยหรือ” ซัมเมอร์ถามขึ้นอย่างมีพิรุธ

“ใช่แล้ว เราจะไปตอนนี้เลย” เหวินโม่หันกลับไปอย่างลังเล ก่อนจะมองไปที่ซัมเมอร์ และพูดขึ้นอย่างจริงจัง

“ข้าก็จะกลับมาด้วยเช่นกัน”

            “ถ้าพวกเจ้าไม่กลับมาแล้วจะอย่างไร”ซัมเมอร์เดาะลิ้นของเธออย่างไม่สนใจ

            “ดี เจ้าหนุ่มน้อย ข้าจะรอให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นและกลับมา” คลิฟยิ้มขึ้นเล็กน้อย เจ้าหนุ่มหัวแดงผู้นี้ มีศักยภาพที่ดีมาก และอารมณ์ของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายนัก เขาคงจะคิดถึงเจ้าเด็กนี้อยู่เหมือนกัน

            “ระวังตัวด้วย”แคลร์พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

            ดวงตาของกงหยูมีประกาย ก่อนจะจับไปที่มือของแคลร์ แล้วพูดขึ้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกของเขา

            “ที่รัก ข้าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เจ้าก็ควรจะดูแลตัวเองและรอการกลับมาของข้าด้วยเช่นกัน”

            ในเวลาต่อมา ใครบางคนก็คุกเข่าลงไปที่พื้น พร้อมกับมือกุมตาของเขาเอาไว้ ก่อนจะโอดครวญขึ้นอย่างเจ็บปวด จริงตามคำของแคลร์ เธอได้ทำในสิ่งที่เธอเคยสัญญาเอาไว้ ว่าจะต่อยตาของกงหยูอีกข้าง ถ้าเขาทำเช่นนี้อีก
   
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารอบๆ ต่างแสดงความอยากรู้อยากเห็น และมองไปด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้และพูดคุยด้วย พวกเขาจะกล้ามากระตุ้นคนที่สามารถใช้เป็นสัตว์เวทย์ระดับเจ็ดแทนม้าได้อย่างไร

            หลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากเมือง เหวินโม่และกงหยูก็บอกลาแคลร์อย่างไม่เต็ม คนที่ไม่เต็มใจมากที่สุดก็คงจะเป็นกงหยู

            แล้วกลุ่มของพวกเขาและเสือดาวลมอีกหนึ่งตัวก็ได้เดินทางกลับไปยังเมืองหลวง

ปราสาทฮิลล์

            ในห้องหนังสือ ดยุคกอร์ดอน กำลังนั่งมองไปที่เครื่องราชกกุธภัณฑ์รูปกุหลาบบนผนังอยู่เงียบๆ

หลังจากที่เวลาผ่านไปนาน ดยุคกอร์ดอนถึงได้พูดขึ้น

“เอ็มเมอรี่ เจ้าคิดอย่างไรกับคนที่แคลร์พากลับมาด้วย”

 เอ็มเมอรี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไปอย่างรอบคอบ

 “เรียกท่านดยุค ชายที่สวมใส่ชุดสีดำผู้นั้น มีความแข็งแรงมาก และอันตรายมาก เขามีกลิ่นอายของความกดดันออกมาตลอดเวลา”

            “ไม่เลว ชายชุดดำผู้นั้นมีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษจริงๆ เป็นสิ่งที่นึกไม่ถึงจริง ๆ” ดยุคกอร์ดอนลูบไปที่มุมปากที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ของเขาก่อนจะลุกขึ้นยืน ดยุคกอร์ดอนไม่ได้เป็นเพียงดอกไม้ที่ประดับอยู่ในแจกันเท่านั้น มีไม่กี่คนในเมืองหลวงที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยบกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา แน่นอนอยู่แล้วว่าหลักสูตรหลักของการเป็นหัวหน้าตระกูลไม่ได้ง่ายเช่นนั้น

            เอ็มเมอรี่เงียบลง ความแข็งแรงเป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่มีหรอกที่ได้กำไรโดยไม่มีความเสี่ยง เขาเข้าใจในความหมายของดยุค หากชายชุดดำผู้นี้มาด้วยใจจริง เขาก็สามารถที่จะช่วยเหลือตระกูลฮิลล์ได้เป็นอย่างดี แต่ ...... ถ้าคนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นกลายมาเป็นผู้ต่อต้านตระกูลฮิลล์แล้วล่ะก็ มันจะกลายเรื่องให้ปวดหัวขนาดใหญ่เลยทีเดียว

            “แคลร์ได้เก็บเกี่ยวผลกำไรเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ ฮ่า ๆ” ดยุคกอร์ดอน หัวเราะขึ้น เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเขาดีมาก แคลร์ได้ก้าวเข้าสู่ลำดับของพ่อมดแม่มดแล้ว แถมยังนำผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนั้นกลับมาด้วยอีก

            แต่เอ็มเมอรี่กลับเป็นกังวล ด้วยพลังอำนาจที่แข็งแกร่งไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการได้ มันมีกรณีอื่นๆ ให้เห็นอยู่บ่อยครั้งแล้ว

            “สุดยอดแคลร์ ข้าจะได้อาศัยอยู่ที่นี่นับจากนี้ไปใช่หรือไหม”ซัมเมอร์กระโดนขึ้นเตียงที่งดงามด้วยความพอใจ

            “ใช่ แล้วก็จำเอาไว้ว่าอย่าได้ก่อปัญหาใด ๆขึ้น ถ้าเจ้าไม่ชอบอะไรบางอย่าง หรือใครสักคน ก็อย่าไปใส่ใจ”แคลร์พูดขึ้นอย่างจริงจัง

            “ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล อาหารก็ดี สภาพความเป็นอยู่ก็ดี ข้าจะไม่ทำสร้างปัญหาใด ๆ ขึ้นอย่างแน่นอน แต่จริงๆนะ ข้าไม่เคยคิดว่าครอบครัวของเจ้าจะร่ำรวยได้ขนาดนี้” ซัมเมอร์กลิ้งไปรอบ ๆเตียงอย่างมีความสุข นี้เป็นครั้งแรกของเธอที่จะได้อาศัยอยู่อย่างหรูหราเช่นนี้ ที่บ้านของเธอ เธอได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจัง สภาพความเป็นอยู่ของเธอไม่ต้องพูดถึง

            “เช่นนั้นก็ดี” แคลร์พยักหน้า

            “ท่านอนเกลือกกลิ้งของเจ้านี่น่าเกียจมาก”จู่ๆ เสียงของเบนก็ดังขึ้นจากทางเข้าประตู

            “เจ้าเข้ามาโดยไม่เคาะประตูด้วยซ้ำ เจ้าผู้ชายไร้มารยาท”ซัมเมอร์พูดขึ้นด้วยความโกรธ

            เบนยักไหล่ไม่สนใจ “ประตูของเจ้าไม่ปิดเอาไว้ด้วยซ้ำ แล้วทำไมข้าจะเคาะด้วย”

            “เจ้า!” ซัมเมอร์กระโดดขึ้นด้วยความโกรธ แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเบน เธอได้แต่สาปแช่งอยู่ภายใน ไอ้ผู้ชายบ้า ไอ้คนไร้มารยาท



           

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เสียงร้องของวิหคเพลิง ที่ดังไปถึงสวรรค์เก้าชั้น นิยายแปล






เสียงร้องของวิหคเพลิง ที่ดังไปถึงสวรรค์เก้าที่ชั้น

เหยาโม่ซิน ฮองเฮาของต้าชู นางได้เสียชีวิตลงอย่างโหดร้าย เพียงหนึ่งวันหลังจากที่นางได้ให้กำเนิดบุตรของนาง อยู่ภายในอ้อมแขนขององค์ฮ้องเต้สามีของนางเย่หงอี๋ และน้องสาวคนที่สองที่เกิดฮูหยินใหญ่เหยาซูหลาน  เย่หงอี๋ได้ครองบัลลังก์ เพราะความเฉลียวฉลาดของเหยาโม่ซิน  แต่เขาเกียจนาง เพราะนางทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ ใครจะไปต้องการให้ผู้หญิงกลายมาเป็นฮ้องเต้กัน


          แต่วิญญาณของนางก็ได้กลับมาเกิดใหม่ อยู่ในร่างของน้องสาวที่สามซึ่งมีมารดาคนเดียวกัน เหยาโม่ว่าน  เหยาโม่ว่านนั้นมีความคิดความอ่านเหมือนเด็กเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น เพราะในตอนนั้นฮูหยินใหญ่ได้ค่อยๆ วางยาพิษมารดาของนาง ในขณะที่นางกำลังตั้งครรภ์ของเหยาโม่ว่านอยู่  เหยาโม่ซินต้องการที่จะแก้แค้นทุกคน สำหรับทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นกับนาง ดังนั้นนางจึงได้ ล่อลวงองค์ฮ้องเต้ และเริ่มแผนของนางที่จะเอาทุกอย่างไปจากเขา นางได้ทำทุกอย่างในขณะที่ยังคงแสร้งทำตัวเป็นเด็กเหมือนร่างเดิมของน้องสาวนาง และนางยังมีความคิดที่ต้องการจะตอบแทน เย่จุ้นฉิ่ง กลับสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำเพื่อนางในขณะที่นางยังเป็นเหยาโม่ซินอยู่ ในกระบวนการของการล้างแค้น นางได้เจอกับบุคคนมากมายที่จะตกหลุมรักกับปัญญาและความเฉลียวฉลาดของนาง


The Cry of the Phoenix Which Reached the Ninth Heaven

Alternative Name: 凤唳九天
Author: 晓云
Artist: –
Category: Chinese Web Novel, Action, Fantasy, Historical, Romance
Status: Completed in Country of Origin
Source: Link
Translator(s)/Translation Group: YumeAbyss
Subscribe: RSS
http://moonbunnycafe.com/the-cry-of-the-phoenix-which-reached-the-ninth-heaven/

...............................................................................................................................

สารบัณ

ตอนที่ 1 ความเจ็บปวดที่เจาะขั้วหัวใจ

ตอนที่ 2 ไม่นะ เจ้ากล้าที่จะทำเช่นนั้นหรือ 

ตอนที่ 3 ในความสิ้นหวัง
 

ตอนที่ 4 ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย  

ตอนที่ 5 เปิดหูเปิดตา  

ตอนที่ 6 ความเกลียดชังภายในดวงตา 

ตอนที่ 7 หนี เร็วเข้ารีบหนีไป 

ตอนที่ 8 อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้  

ตอนที่ 9 อารมณ์ที่รุนแรงมากกว่าคลื่นพายุ 

ตอนที่ 10 น้ำตาที่แสร้งทำ 

ตอนที่ 11 ในน้ำซุบมียาพิษ 

ตอนที่ 12 ห้องเก็บฟืน  

ตอนที่ 13 จะไม่ปล่อยให้ใครรอดไปได้  

ตอนที่ 14 ผู้ชายที่งดงามที่สุด 


ตอนที่ 15 ติดค้าง

ตอนที่ 16 มันมีบางอย่างผิดปกติในเหล้า

ตอนที่ 17 หลั่งน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย

ตอนที่ 18 เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กำจัดของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ 


ตอนที่ 19 อีกครั้งกับความพยายามที่จะเข้าวัง 

ตอนที่ 20 กระตุ้นความสนใจของเย่หงอี๋

ตอนที่ 21 กำดัก กับการค่อยๆ ดิ่งลงไป

ตอนที่ 22 ไม่จำเป็นต้องจงใจประจบ 

ตอนที่ 23 สนมเหยาเฟย

ตอนที่ 24 ทำไมเจ้าถึงไม่อ่อนโยน หรือเพราะเจ้าไม่ได้โง่ 

ตอนที่ 25 เก็บเย่จุ้นฉิ่งขังไว้ในวังหลัง

ตอนที่ 26 หลิวซิงเข้าวังเป็นขันที

ตอนที่ 27 ถ้าต้องอยู่อย่างทรมาน ตายไปไม่ดีกว่าหรือ 

ตอนที่ 28 อยากให้ข้าทำความเคารพคนโง่หรือ 

ตอนที่ 29: ผลักลงไปในทะเลสาบ  

ตอนที่ 30: ระงับข้อพิพาทระหว่างพระสนมทั้งสอง  

ตอนที่ 31: เจ้าช่างเสแสร้งได้ดี 

ตอนที่ 32: เหยาหยูหายไป   

ตอนที่ 33: วิถีแห่งการสั่งสอนที่กล้าหาญ  

ตอนที่ 34: ข้าจะปกป้องท่านแม่  

ตอนที่ 35: เจ้าต้องการให้นางเป็นที่กำบังหรือ  

ตอนที่ 36: นางกำนัลที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล 

ตอนที่ 37: แม้จะตายก็ควรจะทำให้มีความหมาย 

ตอนที่ 38: วิ่งเข้าไปในเรื่องอื้อฉาวของอัน ปิ่งซาน 

ตอนที่ 39: ผู้ชายที่งดงามกว่าผู้หญิง  

ตอนที่ 40: ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง   

ตอนที่ 41 สิ่งที่ฮองเฮาทิ้งไว้ข้างหลัง  

ตอนที่ 42: อาวุธที่แหลมคมที่เยียน หนานเซิงส่งมา  

ตอนที่ 43: ความลับของสวนทรายดูดวิญญาณ  

ตอนที่ 44: เจ้าคือเหยาโม่ซินหรือ?  

ตอนที่ 45: เหยาซูหลานท้อง  

ตอนที่ 46 ลูกของน้างเทียบไม่ได้กับแมวด้วยซ้ำ 

ตอนที่ 47: ค้นหานักบวช  

ตอนที่ 48: วิญญาณที่แตกสลาย   

ตอนที่ 49: นางไม่สามารถเห็นด้วยกับเรื่องนี้  

ตอนที่ 50: มาเกิดใหม่  

ตอนที่ 51: กลับไปจวนเหยาเซี่ยงฟู  

ตอนที่ 52: ตาต่อตา  

ตอนที่ 53: ความตายที่แสนสบาย

ตอนที่ 54: นางจะจ่ายคือให้แก่ชีวิตของมารดานางด้วยชีวิต! 

ตอนที่ 55: ความจริงที่ซ่อนอยู่

ตอนที่ 56: แลกเปลี่ยน

ตอนที่ 57: เจ้าพูดอะไรข้าไม่ได้ยิน

ตอนที่ 58: ใช้เด็กเพื่อแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งของฮองเฮา

ตอนที่ 59: เผยแพร่ข่าวลือ

ตอนที่ 60: ละครที่ดีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ตอนที่ 61: ผู้รับเคราะห์

ตอนที่ 62: ถูกจับได้โอยองค์ชาย






   

  







พูดคุย

ขอโทษที่ลงแคลร์สันไปหน่อยนะคะวันนี้ยุ่งอยู่กับการปรับหน้าเว็บนิยาย

ให้มันอ่านง่ายขึ้นกว่าจะสำเร็จก็เล่นเอาเหนื่อยเลยค่ะ 

เสียงร้องของวิหคเพลิง ที่ดังไปถึงสวรรค์ชั้นที่เก้า

ขอแจ้งนะคะ เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ มันเกิดความสับสน

ผู้แปลจะกลับไปตัดบทออกตามเวอร์อังกฤษนะคะ

ทุกคนจะได้ไม่งงกัน

จะมาลงพรุ่งนี้ ให้คบทั้งหมด

ตั้งแต่ บทที่ 1 ถึง 15 เลยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Beloved Empress ฮองเฮาสุดที่รัก (นิยายแปล)







        นางคือบุคคลคนที่โง่เขลาที่เฝ้ารักคนอย่างเขา และเพราะเขา ทำให้นางกลายมาเป็นคนหยาบคาย ไร้เหตุผล เอาแต่ใจ ขี้อิจฉา และกลายเป็นคนบ้าคลั่ง


            แต่เขาไม่แม้แต่ละเหลียวแลมาที่นาง พวกเขาแต่งงานกันมานานกว่าสองปี เขาไม่เคยมีท่าทีชื่อชอบนางเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้นางกลายเป็นตัวตลกให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะ


            ในที่สุดความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ได้นำให้นางต้องเดินไปสู่การเสียชีวิตที่น่าเศร้า


            เมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นางก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว


            เมื่อเจ้าเป็นฮองเฮา เจ้าจำเป็นจะต้องมีคุณธรรม ใจกว้าง แก้ไขข้อบกพร่องของความอิจฉาริษยาที่มีก่อนหน้าให้หมดไป


            นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนชีวิตในวังของฮองเฮา


            การริเริ่มด้วยการช่วยเหลือฮ่องเต้เพื่อมองหาหญิงงาม แล้วส่งพวกนางไปปฏิบัติเขาในห้องบรรทม การสอนบนเรียนในการกลายเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ให้แก่เหล่านางสนมทั้งหลาย และแม้กระทั่งการมอบตราประทับแห่งหงส์เพลิงเพื่อเป็นรางวัล สำหรับใครก็ตามที่สามารถตอบสนองความต้องการของฮ่องเต้บนเตียงมังกรได้ จะมีโอกาสได้รับตราแห่งหงส์เพลิงและยังจะได้นั่งบนที่นั่งอังสูงส่งนั่นอีก จะได้สัมผัสกับความรู้สึกของการเป็นฮองเฮาของแผ่นดิน ด้วยคุณธรรมเหล่านี้ถึงจะถูกเรียกได้ว่าเป็นฮองเฮที่ไร้ที่ติ


            นางนั้นเต็มไปด้วยคุณธรรมเหล่านี้ ฮ่องเต้ควรจะยินดีในทุกๆ ด้าน


            นางไม่เคยคาดหวังว่าฮ่องเต้จะรู้จักสิ่งที่ดีๆ จากสิ่งที่ไม่ดี ไม่เพียงแต่ตำหนินางเท่านั้น แต่กลับยังขัดแย้งกับนางในทุกๆ อย่าง ผู้หญิงที่นางส่งไปต่างถูกเขาขับไล่ไสส่งไปจนหมด  


            นับตั้งแต่ที่เขาไม่ชื่นชอบหญิงงามเหล่านั้น จึงทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาคงจะมีความสนใจที่พิเศษออกไป เมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงได้ส่งกลุ่มของชายงามไปให้ ทั้งบนทั้งล่างต่างก็มีตัวเลือกมากมายอยู่ในตัว


            แต่ในที่สุด พวกเขาเหล่านั้นก็ถูกไล่ส่งออกไป


            ดังนั้นฮองเฮาจึงต้องเดินทางไปยังห้องบรรทมของฮ่องเต้ด้วยตัวเอง


            “ฝ่าบาท ตรงส่วนนั้นของพระองค์มีอาการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถพูดออกมาได้หรือไม่เพคะ ถ้าเป็นเช่นนั้น ขอให้พระองค์เชื่อมั่นว่าทรงสามารถบอกหม่อมฉันได้ หม่อมฉันจะส่งหมอหลวงมารักษาอย่างลับๆ เพคะ”ดูความมีคุณธรรมของนาง นางแทบจะร้องไห้ออกมาได้เลยทีเดียว


            “อาการเจ็บป่วยที่พูดออกมาไม่ได้อย่างนั้นหรือ”แล้วคิ้วดาบของฮ่องเต้ก็ยกขึ้น พร้อมกับดวงตาที่เป็นอันตรายก็ปรากฏขึ้นให้เห็น ก่อนจะเดินเข้ามาหานางอย่างช้าๆ และออกคำสั่งที่ไม่คาดคิดขึ้น


            “คือนี้ ฮองเฮาจะต้องเป็นคนปฏิบัติข้า”


            “ว่าอย่างไรนะเพคะ”จากนั้น โม่ฉีฉี ด้วยความเร็วราวกับฟ้าผ่าได้ทิ่มแทงเข้าไปยังรังแตนในทันที


            “อ่า..”เสียงร้องที่น่าอนาถก็ดังขึ้น


            โม่ฉีฉี มองดูฮ่องเต้ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะถามขึ้น


            “ฝ่าบาท พระองค์ไม่เป็นไรใช่ไหมเพคะ”


            ฮ่องเต้พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูเจ็บปวดอย่างที่สุด


            “ตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้”


            “ดูเหมือนว่าพระองค์จะมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่สามารถพูดออกมาได้จริงๆ ด้วย”


Eng Ver : https://girlynovelsblog.wordpress.com/2016/11/03/001-crossed-over-for-real/
ผู้แปลอิง :


.....................................................................................................................


สารบัญ

บทนำ

ตอนที่ 1 : ข้ามเวลามาจริงๆ หรือ

ตอนที่ 2 : บุกตำหนักงานเลี้ยง 

ตอนที่ 3 เห็นดีเห็นงาม

ตอนที่ 4 เราจะค้างที่ตำหนักหงส์

ตอนที่ 5 ภารกิจค้นห้องน้ำ

ตอนที่ 6 ข่มขู่ 

ตอนที่ 7 ช่วยฮองเฮาเปลี่ยนเสื้อผ้า 

ตอนที่ 8 ท่านพ่อเหมือนจะไม่ใช่คนดี 

ตอนที่ 9 นี่ท่านใช่พ่อแท้ๆ ของข้าหรือไม่ 

ตอนที่ 10 ปากเป็นแผล

ตอนที่ 11 การเป็นฮองเฮาไม่ใช่เรื่องง่าย 

ตอนที่ 12 การรักษาระยะห่าง 

ตอนที่ 13 สิ่งที่ผู้อื่นไม่ควรรู้

ตอนที่ 14 ฮองเฮาเป็นกังวล  

ตอนที่ 15 ฮ่องเต้หมดสติไป 

ตอนที่ 16 สวัสดีฝ่าบาท  

ตอนที่ 17 ฮ่องเต้กลัวยา  

ตอนที่ 18 การคุกคามของฮ่องเต้   

ตอนที่ 19 ทำให้ฮ่องเต้ก่อไฟ  

ตอนที่ 20 ฮองเฮาทุกข์ทรมานจากความไม่พอใจ 

ตอนที่ 21 เจ้ายังคงโทษว่าเป็นความผิดของเจิ้น  

ตอนที่ 22 เหตุใดท่านถึงได้ดุร้ายเช่นนี้

ตอนที่ 23 ฮ่องเต้เป็นเกย์  

ตอนที่ 24 ทำให้ฮ่องเต้สวมหมวกเขียว

ตอนที่ 25 เจิ้นไม่ได้ฆ่านาง  

ตอนที่ 26 ต่อสู้เพื่อความโปรดปราณ

ตอนที่ 27 ของรางวัล  

ตอนที่ 28 ความรักของฮ่องเต้   

ตอนที่ 29 ของขวัญของฮ่องเต้  

ตอนที่ 30 งานประลองยุทธ  

ตอนที่ 31 คนที่มีความหลัง

ตอนที่ 32 ไม่เหมาะสม 

ตอนที่ 33 แยกแยะไม่ออก    

ตอนที่ 34 ราวกับการเลี้ยงกระต่าย 

ตอนที่ 35 กัดลิ้นเขา  

ตอนที่ 36 พันแผลที่ลิ้น  

ตอนที่ 37 ขัดจังหวะเรื่องดีๆ  

ตอนที่ 38 อยู่ร่วมกับชายแปลกหน้า 

ตอนที่ 39 คนรักลับๆ ของฮองเฮา 

ตอนที่ 40 ยุทธวิธีอันละเอียดอ่อนของฮ่องเต้  

ตอนที่ 41 การเปลี่ยนแปลง  

ตอนที่ 42 ข้าจะไม่อุ้มท้องลูกของท่าน 

ตอนที่ 43 ต่อสู้เพื่อความโปรดปราน 

ตอนที่ 44 วิธีที่จะทำให้ฮ่องเต้โปรดปราน   

ตอนที่ 45 สวนดอกไม้  

ตอนที่ 46 ความชื่นชมของฝ่าบาท 

ตอนที่ 47 ฮองเฮาถูกใส่ร้าย  

ตอนที่ 48 ผู้ชายที่เชื่อนาง 

ตอนที่ 49 แท้งบุตร  

ตอนที่ 50 หลอกลวงฝ่าบาท

ตอนที่ 51 คำพูดของฮ่องเต้ถือเป็นคำขาด

ตอนที่ 52 ข้าจะพาเจ้าออกไป

ตอนที่ 53 ใครคือคนที่นางควรจะไว้ใจ

ตอนที่ 54 เด็กชายที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย

ตอนที 55 ความท้าทายที่ไม่ต้องการ

ตอนที่ 56 ความตื่นเต้น

ตอนที่ 57 ฮองเฮาคนที่อวดเรือนร่าง

ตอนที่ 58 ความรักก็คือความรัก

ตอนที่ 59 จูบลงโทษ

ตอนที่ 60 หัวใจที่เหนื่อยหน่าย

ตอนที่ 61 ต้องมีบางอย่าง

ตอนที่ 62 คิดมากเกินไป

ตอนที่ 63 หัวใจที่สามัคคีกัน

ตอนที่ 64 เหล้าผลไม้

ตอนที่ 65 ทำให้เจ้าสมความปรารถนา

ตอนที่ 66 ปฏิเสธที่จะสัมผัสผู้หญิง

ตอนที่ 67 เจิ้นควรจะทำอย่างไรกับเจ้าดี