ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 31: ฝ่าบาทหนิงควงอิ้ฐ




ฟางถังขว้างฟันทองไปที่ชายวัยกลางคนที่ไล่ตามนกกระจอกมา เพียงแค่แวบแรกที่ได้เห็นก็สามารถบอกได้ทันทีว่าคนผู้นี้แต่งตัวเหมือนพ่อค้าม้าของแคว้นฮูเหนือ พ่อค้าม้าเหลือบมองไปที่ผ้าม่านที่ยกขึ้นของรถม้า ก่อนที่จะคุกเข่าลงไปบนพื้นดินเพื่อขอบคุณฟางถัง

ฟางถังพูดขึ้นอย่างเหยียดหยัน "น่าสมเพช ถึงขนาดปล่อยให้นกขโมยอะไรจากปากของเจ้าเชียวหรือ"

พ่อค้าม้าพูดพึมพำในขณะที่เขายังคงคุกเข่า แม้ว่าเขาจะพูด แต่ก็ไม่มีใครได้ยินคำพูดของเขาได้อย่างชัดเจน

"ถ้าแม้แต่นกกระจอกก็สามารถเอามาได้ เช่นนั้นมันอาจจะไม่ใช่ทองจริง ๆ " หนิง เสี่ยวเหยา กระซิบกับโหลว จื่อกุ้ยที่อยู่ในรถม้า

"ใส่หัวไป เจ้าพวกเร่ร่อน" ฟางถังโบกมือไล่พ่อค้าม้าแคว้นฮูเหนือ

หนิง เสี่ยวเหยาเอียงศีรษะของเธอและถามโหลว จื่อกุ้ยขึ้น "คนขายฟันปลอมเคยหลอกลวงฟางถังหรือ?"

โหลว จื่อกุ้ย รู้สึกว่าหัวของเขาเริ่มปวดในขณะที่เขาขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะถามขึ้นแทน "วันนี้เจ้าวางแผนจะทำอะไรบ้าง" เขาไม่สามารถไล่ตามความคิดที่โง่เขลาได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะจบลงด้วยการพูดถึงอะไรก็ไม่รู้

"คืนความบริสุทธิ์ให้ท่าน ท่านไม่รู้หรือ "หนิง เสี่ยวเหยาพูดขึ้น

"... ... " โหลว จื่อกุ้ยถึงกับไรคำพูด แล้วมีใครสนใจที่จะบอกเขาก่อนหรือไม่?

หนิง เสี่ยวเหยา ลดม่านลงแล้วพูดขึ้น  "ไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องท่านเอง"

"เหมียว ข้าก็เช่นกัน" หัวหน้าแมวดำร้องขึ้น

นางหมายถึงอะไร นางจะปกป้องเขาหรือ? "เจ้าวางแผนที่จะคืนความบริสุทธิ์ของข้าอย่างไร? พวกเรากำลังฆ่าเปิดทางไปที่แคว้นฮูเหนือหรือ? "โหลว จื่อกุ้ยถามขึ้น

 “ฮืม? เมื่อวานนี้ไม่ใช่ท่านบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรือ?" หนิง เสี่ยวเหยาพูดขึ้น

โหลว จื่อกุ้ย ไม่ต้องการพูดอีกต่อไป เขาพูดอะไรแบบนั้นด้วยหรือเมื่อวานนี้?

"ไม่ต้องห่วง" หนิง เสี่ยวเหยายกมือขึ้นเตรียมจะจับหน้าผากของโหลว จื่อกุ้ย อีกครั้ง "ท่านแม่ทัพสูงสุก ความบริสุทธิ์ของท่านจะกลับมาเร็ว ๆ นี้"

โหลว จื่อกุ้ย ปัดมือของเธอออก "เจ้าสามารถบอกได้หรือไม่ว่าเจ้าวางแผนอะไรกันแน่ ... " ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ล้อรถม้าก็วิ่งขึ้นไปบนก่อนหินและทำให้รถม้าสั่น ร่างกายของโหลว จื่อกุ้ย ยังคงอ่อนแออยู่ดังนั้นเขาจึงล้มลงไปบนตักของหนิง เสี่ยวเหยา จากนั้นริมฝีปากของเขาก็สัมผัสเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่สมควรสัมผัส สัมผัสที่อุ่นใต้ริมฝีปากของเขา ทำให้ใบหน้าของโหลว จื่อกุ้ย เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แล้วเขาก็รีบนั่งตัวตรงขึ้นทันที หนิง เสี่ยวเหยากัดริมฝีปากของเธอ พวกเขาม้วนตัวอยู่ใต้ผ่าห่มด้วยกันแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังขี้อายอยู่ดี

รถมาวิ่งไปข้างหน้าอีกสักพัก ก่อนที่มันจะหยุดลง

"ฝ่าบาท พวกเรามาถึงที่หอรัญจวนแล้วพ่ะย่ะค่ะ " เงาพายุพูดขึ้นจากด้านนอก
หนิง เสี่ยวเหยา ออกจากรถม้า ในขณะนี้แคว้นนี้กำลังอยู่ในระหว่างการไว้ทุกข์ ดังนั้นประชาชนทุกคนจึงสวมเสื้อผ้าไว้ทุกข์ เพื่อระลึกถึงฮ่องเต้พระองค์ก่อน ถนนในย่านแสงสีไม่ได้สว่างสไหวเหมือนก่อนและไม่มีใครเดินรอบ ๆ ทุกอย่างดูวิเวกวังเวง หนิง เสี่ยวเหยาเงยหน้าขึ้นมองไปที่อาคารอิฐสามชั้นและอาคารไม้ พร้อมกับคิดว่ามันแตกต่างจากร้านเหล้าในจินตนาการของเธอมาก นอกเหนือจากการขาดลูกค้าแล้ว ยังไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว ร้านค้าทั้งหมดบนถนนสายนี้กำลังจะล้มละลายหรือ?

ฟางถัง ช่วยพยุงโหลว จื่อกุ้ย ออกจากรถม้าอย่างระมัดระวัง เงาพายุได้พาแม่เล้าเข้ามาและหนิง เสี่ยวเหยา ก็จามขึ้นจากกลิ่นแป้งของนาง ก่อนที่นางจะเดินเข้ามาใกล้ๆ เธอจามและอยากจะบอกผู้หญิงคนนี้ว่าเมื่อมันเป็นเรื่องของน้ำห้อมไม่ต้องอาบมาเช่นนี้ก็ได้ แต่แล้วนกพิราบตัวเล็ก ๆ ก็ร้องออกมา

"พวกป่าเถื่อนแคว้นฮูเหนืออยู่ที่นี่!"

หนิง เสี่ยวเหยา ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางเหนือของถนนและหันกลับไป ก่อนจะวิ่งไปอยู่ด้านหน้าของโหลว จื่อกุ้ย เธอกำลังจะเตือนทุกคนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีของศัตรู แต่แล้วลูกธนูก็ยิงออกมาทางโหลว จื่อกุ้ย เงาพายุ พุ่งไปข้างหน้าจากทางด้านหลังของฟางถังและหั่นลูกศรออกเป็นครึ่งด้วยการสะบัดกระบี่เพียงครั้งเดียว

"ฆ่า!" เงาพายุตะโกนขึ้น ในขณะที่เขานำออกไปพร้อมด้วยกระบี่ของเขา

เสียงดังวิ่งผ่านอากาศมาจากด้านหลังพวกเขา หนิง เสี่ยวเหยา หันมาก่อนจะมองเห็นลูกศรยิ่งออกมาหลายร้อยลูกเข้ามาทางพวกเขา

โหลว จื่อกุ้ย เห็นลูกศรและหนิง เสี่ยวเหยา คนที่ยังไม่คิดที่จะหลบเลี่ยง ความกังวลของเขาทำให้เขาร้องออกมา "ฝ่าบาท!"

องครักษ์มังกรพิทักษ์ยกโล่และปิดกั้นลูกศรเอาไว้ หนิง เสี่ยวเหยา ไม่ได้มีเวลามากนัก ก่อนที่การโจมตีของลูกศรครั้งใหม่จะเริ่มต้นขึ้น ภายใต้แสงจันทร์หัวลูกศรของพวกมันส่องประกายลงมาเหมือนดวงดาว

"นี่คือธนูเก้าลูกดอกของแคว้นฮูเหนือ!" ฟางถัง ตะโกนขึ้นจากด้านหลัง

หนิง เสี่ยวเหยา ไม่รู้ว่าธนูเก้าลูกดอกคืออะไร แต่เธอเห็นเงาพายุและคนที่เหลือกำลังถูกยิ่งกระหน่ำจากพายุลูกธนู ในขณะที่ยืนอยู่หลังโล่ และพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้ เห็นได้ชัดว่าลูกธนูที่ยิ่งออกมามีแรงกดดันมากเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะทำอะไรนอกจากยืนหลบอยู่หลังโล่เท่านั้น

"พวกเจ้าได้วางกำลังคนไว้ตามเส้นทางหรือไม่?" โหลว จื่อกุ้ยถามฟางถังขึ้นด้วยความโกรธ

สายลมในตอนกลางคืนค่อนข้างหนาว แต่ฟางถัง กลับกำลังเหงื่อแตกออกมา พวกเขาได้จัดวางกำลังคนไว้ตามทางทิศใต้และทางทิศเหนือของถนน แต่ก็มีไม่มาก เขากลัวว่าการวางคนจำนวนมากเกินไปจะยับยั้งคนป่าเถื่อนแคว้นฮูเหนือไม่ให้เข้ามา ตอนนี้พวกเขากำลังถูกโจมตีอย่างเต็มกำลัง องครักษ์พิทักษ์มังกร ประจำตำแหน่งอยู่ที่ปลายแต่ละด้านไม่มีทางที่จะเปิดทางของพวกเขาออกมาได้

"เจ้ากล้าที่ทำให้ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตรายขนาดนี้เชียวหรือ?" โหลว จื่อกุ้ย ยกขาของเขาต้องการที่จะเตะสั่งสอนฟางถัง

หนิง เสี่ยวเหยา วิ่งไปและผลักฟางถังไปข้างๆ "พี่ชายฟาง เจ้ายังมีอารมณ์ที่จะมาสนทนาเรื่องอื่นกับท่านแม่ทัพสูงสุดอีกหรือ?"

ขาของโหลว จื่อกุ้ย หยุดอยู่กลางอากาศในขณะที่ฟางถังหลบหลีกเลี่ยงไปได้อย่างหวุดหวิด หนิง เสี่ยวเหยายื่นมือออกไปจับที่รถม้า เธอได้ทำคำนวญเอาไว้แล้วว่ามันเป็นพาหนะที่มีขนาดที่หนัก คราวนี้เธอจึงใช้พลังทั้งหมดของเธอเพื่อจับด้านข้างของรถม้า ก่อนที่จะกลั้นลมหายใจและยกมันขึ้นเหนือศีรษะของเธอ