แม้จะมีผู้เข้าพักกว่า 300 คน แต่ตำหนักมังกร ก็ยังดูว่างเปล่าเหมือนเดิม หมอหลวงกั๋วรักษาผู้ป่วย 300
รายและรู้สึกแทบอยากจะไปตายเขาจะจัดการกับคนเหล่านี้ได้อย่างไร?!
—
ทันทีที่ท่านอุปรชายกลับมาถึงจวน
เขาถูกเรียกตัวไปที่พระราชวังโดยพระพันปีเซี่ย หลังจากเรียนรู้ถึงเหตุการณ์ที่คุกหลวง
เขาก็เงียบไปนาน
"พวกเราตัดสินนางผิดไปจริงๆ!"
พระพันปีพูดขึ้นด้วยความเกลียดชัง
อุปราชเซี่ย เหลือบมองใบหน้าขาวซีด เพราะความโกรธของบุตรสาวคนโตและพูดด้วยเสียงที่ต่ำขึ้น
"ใช่ พวกเราตัดสินนางผิดไปจริงๆ หากหัวใจของกระหม่อมระวังสักหน่อยในวันนั้นที่ลานประหาร
กระหม่อมก็คงจะไม่หลงกลนาง" ถ้าเขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นหมาป่าที่กินคน เขาจะไม่คิดลังเลแม้แต่น้อยตอนที่อยู่บนลานประหาร
ฮ่องเต้จะถูกข่มขู่โดยฟางถังและคนของเขาได้อย่างไร? แล้วทหารรักษาวังหลวงเป็นคนตายหรืออย่างไร?
อุปราชเซี่ย ไม่สามารถปล่อยอารมณ์ที่ถูกเก็บไว้ในอกของเขาออกมาได้
ถ้าเขาคิดอย่างลึกซึ้งมากกว่านี้ ตอนนี้เขากับลูกสาวก็คงจะไม่ต้องมาดิ้นรนอยู่ในขณะนี้
พระพันปี ค่อย ๆ ลูบที่ท้าวแขนของเก้าอี้
เสียงของนางดังขึ้นอย่างกังวล "จะมีปัญหาในการประชุมนุมในอีกสามวันนับจากนี้หรือไม่?"
อุปราชไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องนี้
เขายิ้มและพูดขึ้น "เมื่อโหลว จื่อกุ้ยตายไป ฝ่าบาทก็จะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำไปนั้นไร้ประโยชน์"
พระพันปีเซี่ย เชื่อมั่นว่าโหลว
จื่อกุ้ย จะตายจากยาพิษ แต่นางก็รู้สึกกังวล "หนิงหยู เรียนวรยุทธของนางจากใคร? ทำไมท่านพ่อถึงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้? "
ใบหน้าของอุปราชกลายเป็นน่าเกลียด หลังจากที่ได้ยินคำเหล่านี้
"แม่นมของนางเพิ่งจะป่วยตาย ก่อนที่นางจะมาถึงพระราชวังด้วยซ้ำ"
พระพันปีพูดขึ้นอีก “ท่านพ่อ ท่านเป็นคนที่จัดหาแม่นมให้นางไม่ใช่หรือ ตอนนี้หนิงหยูได้มีจุดประสงค์ที่ต่างไปจากพวกเรา
ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าแม่นมของนางตายเพราะอาการเจ็บป่วยจริงๆ? "
น้อยกว่าสี่คนในโลกใบนี้ที่รู้ว่าหนิงหยูเป็นผู้หญิง
รวมไปถึงหนิงหยูเองด้วย พ่อลูกตระกูลเซี่ยและแม่นมคนที่เลี้ยงหนิงหยูขึ้นมาและอยู่ข้างกายนางมาตลอด
อุปราช ส่ายหัว
"มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสืบสวนเรื่องความตายของแม่นมคนนั้น"
พระพันปีเซี่ย
สามารถเข้าใจความหมายของบิดาของนางได้ ไม่ว่าจะแม่นมจะตายด้วยโรคหรือโดยน้ำมือของหนิงหยู
มันก็ไม่มีความหมายใดๆกับพวกเขา เมื่อมันก็ยังคงให้ผลเช่นเดียวกัน พวกเขาได้ยกให้หนิงหยู
ขึ้นครองบัลลังก์ ตอนนี้มันก็เหมือนกับการเลี้ยงดูเสือที่เชิญภัยพิบัติเข้ามา คนเหล่านั้นร่วมถึงศัตรูของพวกเขา
กำลังถามหาปัญหาอยู่
"พระพันปีควรอดทนรอเป็นเวลาสามวันก่อน"
อุปราชเซี่ยพูดขึ้น "ตราบใดที่ โหลว จื่อกุ้ยเสียชีวิต ฝ่าบาทก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มศีรษะให้ท่าน"
"อ่า ผู้ชาย" พระพันปีคิดย้อนกลับไปยังฉากของหนิง
เสี่ยวเหยา และโหลว จื่อกุ้ย ยืนอยู่ด้วยกันที่คุกหลวง และยิ้มอย่างเยือกเย็นขึ้น
ความภักดีและเกียรติยศเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เพื่อประโยชน์ของอำนาจและชีวิตของเขา โหลว
จื่อกุ้ย จะยังคงล้างแค้นให้องค์รัชทายาทอยู่หรือไม่? "
อุปราช ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมยินดีกับการจัดเตรียมหมากรุกสำรองของเขา
—
ตอนนี้หนิง เสี่ยวเหยา กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวในห้องครัวของวังหลวง
เธอสามารถจัดการกับข้าวชามขนาดใหญ่ ชามหมูตุ๋นสีแดงอีกหนึ่งชามและชามซุปหอยอีกหนึ่งชาม
หัวหน้าแมวดำ นั่งอยู่บนโต๊ะในขณะที่เขาตำหนิหนิง เสี่ยวเหยา ขึ้น
"คนไม่เต็มเต็ง เจ้าเป็นถังข้าวหรืออย่างไร?"
หนิง เสี่ยวเหยา ยกหัวของเธอเพื่อที่จะดื่มซอสถั่วเหลืองสำหรับหมูตุ๋นแดง
ก่อนที่จะตอบขึ้น "ไร้สาระ”
"ข้าต้องการพูดเกี่ยวกับท่านแม่ทัพสูงสุดกับเจ้า"
หัวหน้าแมวดำพูดขึ้น
หนิง เสี่ยวเหยา โยนชามที่ว่างเปลาลงไปบนโต๊ะ
ข้างนอกพ่อครัวและขันทีที่เธอไล่ออกไป ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างประตู เมื่อได้ยินฝ่าบาทโยนชามอยู่ในห้องเครื่อง
เขาก็ไม่กล้าหายใจออกมา หลายคนคิดว่าฮ่องเต้ในปัจจุบันเป็นสุภาพอ่อนโยน
แต่หลังจากได้เห็นเขาในวันนี้ ทุกคนที่ยังคงคิดว่าฝ่าบาททรงอ่อนแอและง่ายต่อการรังแกนั้นก็เหมือนคนโง่ที่กำลังแสวงหาความตายของตัวเอง
"ท่านแม่ทัพสูงสุดเป็นพ่อเจ้าหรืออย่างไร?" หนิง เสี่ยวเหยา ทิ่มหัวของหัวหน้าแมวดำด้วยตะเกียบ "เจ้าไม่สามารถเลือกหัวข้ออื่นที่จะพูดคุยได้แล้วหรืออย่างไร?"
"เหมียว" หัวหน้าแมวดำนอนลงไปหน้า
หนิง เสี่ยวเหยา และร้องออกมาเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ
หนิง เสี่ยวเหยา รู้สึกว่าตัวเองรู้สึกหนาวเย็นขึ้น
ในขณะที่เธอหันกลับมา "เจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่?" การพยายามทำให้เธอพอใจอย่างไม่มีเหตุผลเช่นนี้ มีเพียงแค่ขโมยที่ชั่วร้ายเท่านั้นที่จะทำ
"ฝ่าบาท" หัวหน้าแมวดำพูดขึ้น
"ท่านต้องคืนความบริสุทธิให้กลับท่านแม่ทัพสูงสุดนะ"
ความคิดของหนิง
เสี่ยวเหยาตรงกันข้ามกับสิ่งที่หัวหน้าแมวดำพูดอย่างสิ้นเชิง เธอกรอกตาขึ้นก่อนจะพูดขึ้น
"ขอโทษด้วย ข้าได้นอนกับท่านแม่ทัพสูงสุดไปแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรที่เรียกว่าความบริสุทธิอีกต่อไปแล้ว
อีกอย่างข้าก็ไม่สามารถนำมันกลับมาได้ด้วย "
ขนของหัวหน้าแมวดำตั้งขึ้นทันที เขาต้องการที่จะกัดคนไม่เต็มเต็งผู้นี้ให้ถึงแก่ความตาย
เขาต้องการที่จะทำลายนางไปซะ?!
"ข้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมว"
หนิง เสี่ยวเหยายื่นคอออกไปดูหม้อซุปที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเหลือที่จะกินได้อีกแล้ว
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงเลียริมฝีปากของเธอเท่านั้น "แยกกันที่นี่แหล่ะ
เจ้าก็ไปหาแมวเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับธุระของแมว ในขณะที่ข้าก็จะไปพบมนุษย์เพื่อพูดธุระของมนุษย์
"
หัวหน้าแมวดำเห็นว่าหนิง
เสี่ยวเหยากำลังจะจากไป จึงรีบกัดแขนเสื้อของเธอแล้วพูดขึ้น "เจ้าต้องล้างชื่อคนผิดให้กับท่านแม่ทัพสูงสุด
ท่านแม่ทัพสูงสุดน่าสงสารมาก เหมียว "
หนิง เสี่ยวเหยา นั่งลงโดยไม่เคลื่อนไหวอีกครั้ง
เพื่อที่จะเข้าใจใครบางคน เจ้าจะหาผู้ที่ชื่อชอบเขา เพื่อที่จะรู้รายละเอียดต่างๆ
หัวหน้าแมวดำนั่งอยู่บนโต๊ะ ในขณะที่เขาเริ่มเล่าเรื่องราวของโหลว จื่อกุ้ยตั้งแต่เกิด
เรื่องแรกฮูหยินใหญ่ เสียชีวิตจากภาวะตกเลือดหลังคลอด แล้วท่านแม่ทัพสูงสุดก็ได้เข้าร่วมกองทัพในวัยหนุ่มของเขา
พ่อของเขาและพี่น้องของเขาต่างก็เสียชีวิตในสนามรบ และมีเพียงหลานชายที่ป่วยอยู่ที่จวนตามลำพัง
เขาเกือบจะได้แต่งงานกับผู้หญิงถึง 6 คนแต่ละคนมีความงดงามตามแบบของพวกนาง
แต่ไม่มีผู้ใดมีชีวิตอยู่ได้ถึงวันแต่งงานแม้แต่คนเดียว ท่านแม่ทัพสูงสุดโหลว
ได้ต่อสู้กับสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ปราบปรามผู้บุกรุกเป็นจำนวนมากและหัวหน้าแมวดำยังได้อธิบายถึงต้นกำเนิดของชื่อ
โหลว จื่อกุ้ย ให้หนิง เสี่ยวเหยาฟังอีกด้วย
ในตอนท้ายหนิง เสี่ยวเหยา
รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ นี้มันชีวิตแบบไหนกันที่ผู้ชายคนนี้ต้องเจอ? มันจะดีกว่าถ้าซอบบี้กัดเขาให้ตายแทน มีชีวิตอยู่คนเดียวเช่นนี้ช่างน่าสงสารและโดดเดี่ยวอย่างแท้จริง
"เหมียว ฝ่าบาท
ช่วยท่านแม่ทัพสูงสุดด้วย" หัวหน้าแมวดำ เอื้อมอุ้งเท้าของมันออกไป
ก่อนที่จะเกาไปที่มือของหนิง เสี่ยวเหยา "ท่านแม่ทัพสูงสุดไม่ใช่คนเลว"
"ฮืม.....” ดวงตาของหนิง เสี่ยวเหยาเป็นสีแดงก่อนจะพยักหน้าขึ้น
"ข้าจะช่วยเขา"
"จริงๆนะ?" ดวงตาของหัวหน้าแมวดำเปิดขว้างขึ้นทันที
"ข้าขอสาบานด้วยตัวตนของข้าและหลักการของข้า!"
หนิง เสี่ยวเหยาประกาศขึ้น
"ดี" หัวหน้าแมวดำเปลี่ยนไปเป็นจริงจังด้วยเช่นกัน
"ถ้าเจ้าสามารถเรียกคืนความบริสุทธิของท่านแม่ทัพสูงสุดได้ ในอนาคตข้า.. ในอนาคตข้าจะไม่เรียกเจ้าว่าคนไม่เต็มเต็งอีกต่อไป"
“… …” หนิง เสี่ยวเหยาถึงกับพูดไม่ออก ช่างเป็นการแสดงความซาบซึ้งที่ดีจริงๆ
เธอยอมที่จะรับกระต่ายแทนได้ไหม!
หัวหน้าแมวดำ สังเกตหนิง เสี่ยวเหยา จ้องมาที่เขาและเพิ่มข้อตอบแทนลงไปอีก
"และในอนาคต เจ้าจะเป็นหญิงสาวที่ดียิ่งกว่า เจี้ยวเจี้ยวในใจของข้า"
หนิง เสี่ยวเหยา มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในขณะที่เธอถามขึ้น
"ใครคือเจี้ยวเจี้ยว?"
“แมวตัวเมียที่อาศัยอยู่ในจวนท่านเสนาบดี
แมวทุกตัวในเมืองหลวงต่างก็ไล่ตามเจี้ยวเจี้ยว เหมียว! "หัวหน้าแมวดำ
พูดด้วยเสียงที่ต่ำ
“ฮ่าๆๆๆ ” หนิง เสี่ยวเหยา เธออยากจะฆ่าแมวตัวนี้จริงๆ!