ใบหน้าที่หล่อเหล่า แต่กลับขาวซีดของโหลว
จื่อกุ้ย กำลังถูกมัดและคุกเข่าอยู่บนพื้นสูงหนึ่งเมตรจากพื้นดิน
เสื้อผ้าของเขาถูกถอดออกเหลือไว้เพียงกางเกงตัวยาวสีขาวเท่านั้น แรงกดทำให้โหลว จื่อกุ้ย
หายใจลำบาก ด้านบนของเขาคือมือสังหารที่กำลังถ่มเหล้าลงไปบนมีดที่อยู่ในมือของเขา ด้านล่างคือฝูงชนที่กำลังผลักดันกันออกมาเหมือนทะเล
ขณะที่ทุกคนสาบแชงนักโทษไม่หยุด ใครบ้างไม่เกลียดคนทรยศต่อประเทศชาติของพวกเขา? ประชาชนของเมืองหลวงเพียงไม่กี่คนได้ถือถ้วยอยู่ในมือ
พวกเขากำลังรอเก็บเลือดและเนื้อของเขา หลังจากที่เขาถูกทำให้เป็นเนื้อสับ เพราะพวกเขาต้องได้กินเลือดและเนื้อเหล่านี้เท่านั้น
พวกเขาจึงจะสามารถลดความเกลียดชังในหัวใจของพวกเขาลงได้
"ได้เวลาแล้ว เริ่มต้นโทษประหารชีวิตได้!"
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการลงโทษหยิบป้ายคำสั่งที่แกะสลักไว้ด้วยตัวอักษรขึ้นมา เพื่อสั่งดำเนินการและโยนมันออกจากแท่นที่นั่งของเขา
เสียงไชโยโห่ร้องดังขึ้นจากในฝูงชน
โหลว
จื่อกุ้ย เงยหน้าขึ้นมองไปที่นั่งข้ามกับแท่นประหารและเห็นอุปราชที่มีผมสีขาวนั่งอยู่ในตำแหน่งหลักบนแท่น
เขาจ้องมองมาที่เขาอย่างจดจ่อและไม่มีร่องรอยของความเสียใจบนใบหน้าของเขาแม้แต่น้อย
ผู้ประหารชีวิตได้สืบทอดงานฝีมือของเขามาหลายชั่วอายุคน
เขารู้วิธีที่จะตัดชิ้นเนื้อของพวกเขาออกทีละชิ้นจนเหลือแต่กระดูกของพวกเขา ในขณะที่พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่
มือสังหารใช้ใบมีดที่บางตัดชิ้นเนื้อที่หัวไหล่ของโหลว จื่อกุ้ย ก่อนที่มันจะตกลงไปที่พื้น
มันทั้งยาวและบางเหมือนผ้าไหม ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีเลือดไหลออกมามาก แต่เลือดก็ยังคงซึมลงไปบนไม้ทำให้หยดและเกิดเป็นคราบที่พื้นด้านล่าง
มันจะไม่เจ็บปวดได้อย่างไรเมื่อคนถูกหั่นเนื้อออกทีละชิ้นๆ? ร่างทั้งร่างของโหลว
จื่อกุ้ย สั่นเทาในความทุกข์ทรมาน แต่เขาก็ยังคงบังคับให้ตัวเองให้เงียบ
โดยไม่มีแม้แต่เสียงเดียวดังลอดออกมาจากปากของเขา
"คนทรยศผู้นี้เป็นคนดื้อรั้นจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ"
เจ้าหน้าได้ตั้งข้อสังเกตแทนท่านอุปราชจากแท่นที่นั่ง
อุปราชเซี่ยส่ายหัวเบาๆ
ก่อนจะพูดขึ้น "ช่างน่าสงสารที่บิดาและพี่น้องของเขาเสียชีวิตทั้งหมดเพื่อแคว้นนี้
ชื่อเสียงของตระกูลโหลวและความกล้าหาญของพวกเขาถูกทำลายโดยชายผู้นี้ เป็นความโชคร้ายสำหรับตระกูลของเขาและราชวงศ์โยงหนิงของพวกเราจริงๆ!
"
"เมื่อผู้ชายคนนี้เกิดมา นกกาเหว่าในสวนหลังจวนตระกูลโหลวก็ร้องขึ้น"
ขุนนางชราพูดขึ้น " จื่อกุ้ย หมายถึง 'นกกาเหว่า' มันเป็นท่านแม่ทัพสูงสุดโหลว
ผู้ซึ่งให้ชื่อจื่อกุ้ย แก่เขา แต่นกกาเหว่าที่ร้องในเวลากลางคืนเป็นลางร้าย
ดูเหมือนว่าการเกิดของเขาจะไม่มีอะไรดีเลย เลยนอกจากภัยพิบัติ "
"ถูกต้องแล้ว" ขุนนางอีกคนที่แต่งชุดแม่ทัพยิ้มขึ้น
“เด็กหนุ่มคนนี้รอดชีวิตมาจากการเสียชีวิตของบิดา มารดาและพี่น้องของเขา น้องสะใภ้ทั้งสองของเขาต่างก็เสียชีวิตจากการจากตกเลือดพร้อมกับลูกๆ
ของพวกนาง ในขณะที่ลูกคนเดียวที่รอดชีวิตของพี่ชายของเขาก็มักจะไม่สบาย
ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานนัก นกกาเหว่าโหลวดูเหมือนจะเป็นเพียงความหายนะต่อผู้ที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น
เขาทำให้ทุกคนในครอบครัวโหลวเสียชีวิต ถ้าเขาไม่ตายตอนนี้ เขาก็จะทำให้ราชวงศ์โยงหนิงของพวกเราพบกับภัยพิบัติไปด้วย
"
บรรดาผู้ที่สามารถนั่งอยู่แท่นเพื่อเฝ้าดูทั้งหมดต่างก็อยู่ฝั่งของท่านอุปราช
จึงเป็นธรรมชาติที่จะไม่มีใครพูดแทนโหลว
จื่อกุ้ย แม้ว่าพวกเขาจะสงสัยว่าโหลว จื่อกุ้ย มีการสื่อสารกับพวกป่าเถื่อนทางเหนือจริงหรือไม่ก็ตาม
พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะรุกรานฝูงชนได้โดยเปิดเผยความคิดของพวกเขา ขุนนางที่อยู่บนที่นั่งยังคงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ
ในขณะที่ประชาชนยังคงด่าท่อสาปแช่งอย่างต่อเนื่องอยู่ทางด้านล่าง
โหลว จื่อกุ้ย คิดถึงครอบครัวของเขาเช่นกัน
เพื่อปกป้องราชวงศ์โยงหนิงตระกูลโหลวของเขาได้หลั่งโลหิตลงบนสนามรบ ในท้ายที่สุด สิ่งที่พวกเขาได้รับคืออะไร? ตอนนี้ผู้ลี้ภัยในราชวงศ์โยงหนิงมีจำนวนนับล้าน
ในขณะที่โจรผู้ร้ายวิ่งพล่านไปทั่วอยู่เหนือพรมแดนทางเหนือของฮู และรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
พวกเขารอโอกาสที่จะถูกเรียกกลับเข้าสู่ที่ราบภาคกลางแทบจะตายอยู่แล้ว พวกเขาต่างก็เบียดเสียดไปกับความยากลำบากทั้งในและที่ชายแดน
ในชณะที่ประชาชนอาศัยอยู่ในความยากจน ขุนนางเหล่านี้ทำอะไรกันอยู่?
"องค์รัชทายาทคงจะสามารถบูรณะราชวงศ์ไปแล้ว"
โหลว จื่อกุ้ย มองไปที่แท่นที่นั่งในขณะที่เขาพูดขึ้นด้วยเสียงที่ดัง "แต่เจ้า
คนเจ้าเล่ห์ สนุขจิ้งจอกเจ้าทำให้เขาต้องตาย!เซี่ย เวินเยี้ยน หัวใจของข้าที่มีต่อราชวงศ์โยงหนิง
ก็ชัดเจนเหมือนกลางวันและกลางคืน สวรรค์และโลกสามารถตรวจสอบได้! แม้ในความตายข้าก็จะลืมตาเพื่อที่จะดูว่า
จะเกิดอะไรขึ้นในวันที่ราชวงศ์โยงหนิง ที่อยู่ในมือของเจ้าตกลงไปสู่ความพินาศ!
"
"คนทรยศผู้นี้กล้าสาปแช่งราชวงศ์โยงหนิงของเราให้พบกับความพินาศหรือ?"
ฝูงชนเริ่มโกรธและขว้างก้อนหินไปที่โหลว
จื่อกุ้ย ที่อาบไปด้วยเลือด และสาปแช่งเขาด้วยคำพูดที่สกปรกยิ่งกว่า อุปราชเซี่ย นั่งบนแท่นนั่งเพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น
โหลว จื่อกุ้ย เป็นผู้สนับสนุนที่เหลืออยู่คนเดียวขององค์รัชทายาทซึ่งมีกองกำลังจำนวนมากภายใต้การควบคุมของเขา
เขาจะปล่อยให้คนแบบนี้อยู่รอดได้อย่างไร? ถ้าเขาไม่ได้บังคับให้องค์รัชทายาทเขียนจดหมายและหลอกล่อให้ชายผู้นี้กลับมาที่เมืองหลวง
เพื่อจับตัวเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว มันก็คงจะเป็นการยากที่จะจับตัวแม่ทัพสูงสุดที่ชื่อโหลว
จื่อกุ้ย ผู้นี้ได้ แต่ในท้ายที่สุดเขาก็คือผู้ชนะคือพระราชาและผู้แพ้ก็คือโจร
ผู้แพ้ก็คือผู้แพ้ ดังนั้นโหลว จื่อกุ้ย ไม่สามารถตำหนิใครได้นอกจากตัวเอง
"พวกเจ้าทำเช่นนี้กับท่านแม่ทัพสูงสุดได้อย่างไร?"ฟางถัง ผู้ที่รีบตรงมาที่ลานประหารพร้อมกับหนิง
เสี่ยวเหยา รู้สึกว่าน้ำตาของเขากำลังจะไหลออกจากดวงตาของเขา
ผู้คนที่สาบแช่งแม่ทัพสูงสุดให้ตกตายไปและตัดชิ้นเนื้อเพื่อทรมานเขาราวกับตกนรถทั้งเป็นเช่นนี้
พวกเขารู้หรือไม่ว่านี่คือชายผู้ปกป้องแผ่นดินของเขาและความสงบสุขของพวกเขามาตลอด?!