ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 4: ศัตรูของศัตรูคือเพื่อนของเรา




          "แล้วท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?"หนิง เสี่ยวเหยา ถามคำถามออกไปต่อคนที่อยู่ตรงหน้าของเธอ ไม่ว่าท่านแม่ทัพผู้นี้จะถูกใส่ความหรือไม่ ก็ไม่มีใครสามารถบอกถึงความตั้งใจของเธอได้จากคำเหล่านี้

          เมื่อนางกำนัลอายุน้อยที่ยืนอยู่ใกล้หนิง เสี่ยวเหยา ได้ยินนางก็รีบตอบขึ้นอย่างเคารพ "ฝ่าบาทท่านแม่ทัพโหลวจื่อกุ้ย ได้ถูกส่งตัวไปยันลานประหารแล้วเพคะ"

          หนิง เสี่ยวเหยา ขุดนิ้วลงไปในเบาะนั่งของเธอ คำเหล่านี้เปิดเผยข้อมูลสองอย่างด้วยกัน แม่ทัพผู้นี้มีชื่อว่าโหลวจื่อกุ้ย และอย่างที่สองแม่ทัพผู้นี้อยู่ที่ลานประหารแล้ว

          คนไม่เต็มเต็งผู้นี้ยังจะมาเสียเวลากับคำพูดอยู่อีก!" แมวสีเหลืองตัวอ้วนร้องขึ้น "ชายชราเซี่ยผู้นั้นได้ตัดสินโทษตายให้ท่านแม่ทัพผู้ด้วยการตัดเป็นพัน ๆชิ้น ถึงตอนนี้เขาอาจจะไม่มีเนื้อเหลืออยู่เลยก็ได้! "

          หนิง เสี่ยวเหยา กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ของเธอ ไม่ดีแล้ว เธอต้องทำอะไรสักอย่าง ชายแก่มหาอุปราช มาจากตระกูลเดียวกันกับพระพันปี ดังนั้นมันยอมไม่เป็นผลดีต่อเขาแน่ ในกรณีนี้คนที่เขาต้องการจะฆ่า หนิง เสี่ยวเหยา เชื่อมั่นอย่างสมเหตุสมผลว่าเป็นศัตรูของศัตรูอาจจะเป็นเพื่อนของเรา

          "ข้าอยากจะไปที่ลานประหาร!" หนิง เสี่ยวเหยา บอกความตั้งใจของเธอขึ้นดังๆ ไม่เพียงแค่มนุษย์ที่อยู่ในห้องจะตกใจ แมวบนต้นไม้ก็ตะลึงเช่นกัน เกิดอะไรขึ้นกับบุคคลผู้นี้

          เมื่อเธอเห็นว่าไม่มีใครตอบอะไร หนิง เสี่ยวเหยาก็เดินไปที่ประตู ถ้าไม่มีใครจะไปกับเธอ เธอก็จะขอร้องผู้อื่นเพื่อทำนางเธอ แต่แล้วนางกำนัลและขันทีก็รีบวิ่งไปเพื่อสกัดเส้นทางของเธอ นางกำนัลที่เคยพูดกับเธอก่อนหน้าพูดขึ้นทันที "ฝ่าบาทเพคะ ลานประหารเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเลือด ร่างกายมังกรของพระองค์มีค่ามาก แล้วพระองค์จะไปยังสถานที่เช่นนั่นได้อย่างไรเพคะ? "

          หนิง เสี่ยวเหยาตอบขึ้นทันที "ข้าไม่กลัวเลือด" คนจากโลกที่กำลังจะแตกจะกลัวเลือดได้อย่างไร? เมื่อซอมบี้ วิ่งไปรอบ ๆ มันก็มีเพียงแค่เลือด เพราะเครื่องในกระจัดกระจายไปทั่วสถานที่ทั้งหมด

          นางกำนัลกางแขนออกในขณะที่เสียงของนางเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างขึ้น "ฝ่าบาท พระองค์ทรงลืมวิธียกน้ำชาแก่พระพันปีแล้วหรือเพคะ”

          "เหมียว" แมวดำนอกหน้าต่างพูดขึ้นมาอีกครั้ง "ฮ่องเต้แบบนางควรจะตายไปเสีย ตายไปเสียๆๆๆๆ!"

          "... ... " หนิง เสี่ยวเหยา ยังคงเงียบอยู่

          "ถ้าฝ่าบาท ต้องการที่จะออกจากวังหลวง ทำไมไม่ไปถามพระพันปีก่อนเล่าเพคะ?" นางกำนัลแนะนำขึ้น

          หนิง เสี่ยวเหยาไม่เสียเวลาไปกับคำพูดใดๆ อีก มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปต่อต้านกับคนของพระพันปี? เธอเงยหน้าขึ้นและผลักนางกำนัลออกไป ไม่ว่าจะอย่างไรเธอยังคงเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเพื่อนร่วมทีมในการสู้รบ การผลักของหนิง เสี่ยวเหยา ก็เพียงพอที่จะทำให้นางกำนัลลอยออกนอกประตูไป ทุกคนตกใจมาก ไม่ใช่พวกเขาบอกว่าฝ่าบาทไม่เคยฝึกวรยุทธไม่ใช่มาก่อนไม่ใช่หรือ? หนิง เสี่ยวหยินใช้ประโยชน์จากสถานะที่มึนงงของพวกเขาวิ่งออกไปนอกห้องทันที ก่อนที่จะต้องตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของเธอ

          ตอนนี้ก็เป็นช่วงกลางวันในเดือนเมษายน เมื่อดอกกุหลาบฟันปีและกุหลาบจันทร์กำลังบานออกมา เติมเต็มฉากให้กลายเป็นภาพฝัน บริเวณลานกว้าง ๆ เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ หนิง เสี่ยวเหยานั้นเติบโตขึ้นมาในโลกที่ท้องฟ้าเป็นสีเทาและดินแดนที่รกร้าง ซอมบี้วิ่งไปรอบๆ ในยุคสุดท้ายของมนุษยชาติ ดังนั้นโลกที่อยู่ตรงหน้านี้จึงเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

          "โอ้ ... พระเจ้า" หนิง เสี่ยวเหยามองไปที่สวนดอกไม้ เกือบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว นี่มันอะไรกัน นี่เป็นโลกที่มนุษย์อาศัยอยู่หรือ!

          "ฝ่าบาทเพคะ" จู่ๆ เสียงผู้หญิงก็ตะโกนดังขึ้น "บ่าวผู้ต่ำต้อยอ้อนวอนฝ่าบาทได้โปรดลดฝีเท้าของพระองค์ลงด้วยเพคะ!"

          หนิง เสี่ยวหยิน ฟื้นสติของเธอกลับมาจากเสียงตะโกน เธอค้นพบว่ามีขันทีสองสามคนที่วิ่งตรงเข้าหาเธอจากด้านตรงข้ามของทางเดิน เนื่องจากเธอไม่ต้องการเริ่มต้นการสู้รบที่เต็มไปด้วยเลือดเร็วนัก หลังจากที่พึ่งจะเดินทางมาถึงโลกนี้ หนิง เสี่ยวเหยา กระโดดข้ามราวบันไดทางเดินซึ่งอยู่ห่างจากพื้นดินประมาณสองเมตร แต่ความสูงเท่านี้สำหรับหนิง เสี่ยวเหยามันก็แทบจะเหมือนการเดินบนพื้นราบเท่านั้น

ฮะ! ฝ่าบาท!”
         

          "รีบเข้า รีบไปรายงานต่อพระพันปี!"

ฝ่าบาทหนีไปแล้ว

       เสียงตะโกนที่อยู่เบื้องหลังของเธอ เริ่มกลายเป็นความวุ่นวาย ยิ่งเสียงดังขึ้นมากเท่าไหร่ หยิง เสี่ยวเหยาก็ยิ่งเพิ่มความว่องไวขึ้นมากเท่านั้น เธอต้องช่วยคนเอาไว้ก่อน และกังวลเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างในภายหลัง กลุ่มผู้คนวิ่งผ่านประตูลานออกมา ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะปิดกั้นเส้นทางของเธอ ดังนั้นหนิง เสี่ยวเหยา จึงหมุนส้นเท้าของเธอและวิ่งไปที่มุมของกำแผง ก่อนจะใช้มือและเท้าของเธอไต่ขึ้นไปราวกับตุ๊กแก ต่อสายตาของทุกคนฮ่องเต้พระองค์ใหม่ล่าสุดของราชวงศ์หนิงได้กระโดดขึ้นเหนือกำแพงและหลบหนีไป ...