ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Unruly Phoenix Xiaoyao (นิยายแปล) ตอนที่ 14: ถ้าองค์รัชทายาทไม่ตาย ฝ่าบาทก็ไม่ได้เป็นฮ่องเต้




          "ฝ่าบาท ในอนาคตฝ่าบาทควรระลึกไว้เสมอว่าต้องนำทหารองครักษ์ติดตัวมาด้วย มิฉะนั้นพระพันปีผู้คงต้องเป็นกังวล "

          ในห้องโถงในตำหนักของพระพันปี นางกำลังยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเพื่อเช็ดฝุ่นบนหน้าผากของหนิง เสี่ยเหยา ในขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แม้ว่า หนิง เสี่ยวเหยา มาพร้อมกับการเตรียมพร้อมในการต่อสู้ที่เธอเคยใช้ในการฆ่าซอมบี้ แต่คำแนะนำที่อ่อนโยนของพระพันปีทำให้เธอรู้สึกงงงวย นี่ไม่ถูกต้องผู้หญิงคนนี้เล่นนอกบทอีกแล้วหรือ?

          อุปราชเซี่ย นั่งอยู่ในที่นั่งถัดไปที่มีความสำคัญลองลงมาทางด้านซ้ายของพระพันปี เขาจ้องมองไปที่หนิง เสี่ยวเหยา ด้วยความอุบอุ่นเช่นกัน เหมือนกับเขาต้องการจะพูดคำพูดที่รุนแรง แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะพูดเช่นนั้น ช่างเป็นฉากอ่อนโยนและที่รักใคร่จนทำให้เส้นขนของหนิง เสี่ยว ตั้งขึ้นทั้งหมด เขาก็แสดงนอกบทเหมือนกันหรือ?

          "ฝ่าบาท อ่า" พระพันปี ดึงมือหนิง เสี่ยวเหยาไปจับไว้

          อืม?” ตอนนี้หนิง เสี่ยวเหยาถึงกับไปไม่เป็น

          "ทำไมพระองค์ถึงช่วยคนทรยศเช่นโหลว จื่อกุ้ย? มีใครบอกอะไรบ้างอย่างกับพระองค์หรือ?" พระพันปี เงยหน้าขึ้นและมองมาที่นาง

          หนิง เสี่ยวเหยา จ้องมองกลับมาอย่างนิ่งๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคน ๆ นี้ถึงได้ทำดีกับเธอ เพื่อที่จะให้เธอยอมพูดออกมานั้นเอง

          เมื่อเห็นว่าหนิง เสี่ยวเหยา ไม่ได้พูดอะไร พระพันปี ก็ลูบไปที่มือของนางและพูดขึ้น "โหลว จื่อกุ้ย เป็นเพื่อนที่ดีขององค์รัชทายาท ฝ่าบาทรู้เรื่องนี้หรือไม่?"

          หนิง เสี่ยวเหยา ทำเสียงขึ้นจมูกเพื่อเป็นการยอมรับ โหลว จื่อกุ้ย เพิ่งบอกเธอ แต่สิ่งนี้มันจะเกี่ยวอะไรกับเธอ?

          พระพันปี เห็นว่าหญิงสาวคนนี้ยังคงสวมหน้ากากที่เต็มไปด้วยความโง่เขลา แม้แต่คำพูดของนาง นางจึงเหลือบไปที่อุปราชเซี่ย เหตุใดเขาถึงได้เลี้ยงดูคนโง่มาได้มากขนาดนี้?! อุปราชเซี่ย ปิดปากของเขาเพื่อที่จะไอและพูดขึ้น "ฝ่าบาทเก็บประเด็นว่าโหลว จื่อกุ้ย สมควรจะตายหรือไม่ลงไปก่อน กระหม่อมมีเรื่องอยากให้ฝ่าบาททรงเข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง หากปราศจากการสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาท ฝ่าบาทก็ไม่สามารถขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้”

          "... ... " หนิง เสี่ยวเหยายังคงเงียบ เธอไม่ต้องการเป็นฮ่องเต้!

          อุปราชเซี่ย พูดขึ้นต่อ "โหลว จื่อกุ้ย ต้องการหาทางแก้แค้นให้กับองค์รัชทายาท คิดเกี่ยวกับมันฝ่าบาท ใครจะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา? "

          วิธีคิดและการให้เหตุผลของหนิง เสี่ยวเหยา อาจขัดแย้งกับคนในสมัยนี้ แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ หลังจากคิดถึงคำว่า หากองค์รัชยาทไม่ตาย ฝ่าบาทก็ไม่ได้เป็นฮ่องเต้ ในหัวของเธอครบ 3 ครั้ง เธอก็ค้นพบสิ่งที่อาจทำให้เธอเจ็บปวดได้โดยที่ไม่ทำร้ายเธอ พ่อกับลูกที่ไม่ดีคู่นี้วางแผนที่จะทำให้ฮ่องเต้โดยการฆ่าองค์รัชทายาท แล้วอย่างไรนะหรือ? เธอก็กลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของท่านแม่ทัพสูงสุดโหลวอย่างไรเล่า

          "ฝ่าบาท" พระพันปีพูดขึ้น "ถ้าโหลว จื่อกุ้ย กลับไปที่กองทัพ เขาจะยกธงขึ้นเพื่อแก้แค้นการตายขององค์รัชทายาทและเรียกกองกำลังเพื่อก่อกบฏ เมื่อถึงเวลานั้นฝ่าบาทจะทรงทำเช่นไร? "

          ความผิดพลาด!

          หนิง เสี่ยวเหยาเป็นคนโง่ อุปราชและพระพันปีต้องการจะเลี้ยงดูเธอให้ดีก่อนที่จะฆ่าเธอ ในขณะที่ท่านแม่ทัพสูงสุดก็วางแผนที่จะฆ่าเธออย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้? เส้นทางเดียวที่เหลือสำหรับเธอก็คือการหลบหนีเข้าสู่ปลายอีกด้านหนึ่งของโลกหรือไม่?

          "ใครเป็นคนบอกฝ่าบาทเกี่ยวกับเรื่องของโหลว จื่อกุ้ย?" พระพันปีถามขึ้น

          ปากของหนิง เสี่ยวเหยาถึงกับห้อยลง เธอรู้สึกว่าไม่ต้องการต่อสู้อีกต่อไปแล้ว และบอกพระพันปีถึงความจริง "ได้ยินจากแมว"

          "... ... " พระพันปีและอุปราชเซี่ย ต่างก็พูดไม่ออก ดูเหมือนฝ่าบาทจะทรงต่อต้านพวกเขาจนถึงที่สุด!

          หนิง เสี่ยวเหยา ไม่ได้ยินอะไรที่อุปราชและพระพันปีพูดกับเธอหลังจากนั้น ความคิดทั้งหมดของเธอหมุนไปรอบ ๆ อยู่เพียงสามคำ จะทำอย่างไร?

          หลังจากพยายามส่งข้อมูลของโหลว จื่อกุ้ย ให้กับหนิง เสี่ยวเหยา แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ อุปราชและพระพันปี จึงไม่ต้องการจะคุยกับเธออีกต่อไป

          "ฝ่าบาทควรจะกลับได้แล้ว" พระพันปีบังคับความโกรธของตัวเองลงไปและลูบที่มือของหนิง เสี่ยวเหยาอีกครั้ง 

          หนิง เสี่ยวเหยา เดินออกจากห้องโถงพร้อมกับหัวที่ก้มต่ำของเธอ เธอต้องการหาจุดที่เงียบสงบเพื่อสงบสติอารมณ์และคิดถึงอนาคตของเธอ เมื่อเธอออกมา ใบหน้าที่อ่อนโยนและสวยงามของพระพันปี ซึ่งราวกับดอกโบตั๋น ก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้มขึ้นทันที นางถามอุปราชอย่างอย่างเงียบ ๆ ทันที "ท่านพ่อเห็นว่ามีสิ่งใดผิดปกติกับฝ่าบาทหรือไม่"

          อุปราช นั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขา ดวงตาปิดสนิทไปนานโดยที่ไม่พูดอะไร ในที่สุดเขาก็ลืมตาและบอกกับพระพันปีว่า "ฝ่าบาท เปลี่ยนพระทัยแล้ว?"

          "อะไรนะ?" พระพันปี ตกใจกับคำตอบทีได้

          "หนิงหยูไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดอีกต่อไป" การแสดงออกของอุปราชเซี่ย กลายน่ารังเกียจในขณะที่เสียงของเขาเริ่มลดลง "นางต้องการดึงโหลว จื่อกุ้ย ให้มาอยู่ข้างนางเพื่อวัตถุประสงค์ของตัวนางเอง?"

          "มันจะเป็นไปได้อย่างไร?" เสียงของพระพันปีจู่ ๆก็สูงขึ้น

          อุปราชได้คิดย้อนกลับไปถึงคำแรกที่หนิง เสี่ยวเหยา ได้พูดกับเขาในลานประหาร ตอนนี้เขาได้คิดสองครั้งแล้ว เขารู้ว่าฮ่องเต้ตัวเล็ก ๆ ได้ใช้เขาเพื่อพิสูจน์ตัวตนของตัวเอง ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมฮ่องเต้ตัวเล็กๆ ถึงได้หยุดเขาและทำให้เขาหมดหนทางเช่นนั้น หนิง หยู ดวงตาของอุปราชเซี่ย เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นลงในขณะที่เขาคิด เขามองหลานสาวคนนี้ผิดไปจริงๆ