หนิง เสี่ยวเหยาไม่สนใจเรื่องต่างๆเช่นชื่อเสียง
ผู้คนในช่วงที่โกลกำลังจะแตกไม่รู้ว่าพวกเขาจะถูกโดยซอมบี้กัดตอนไหน
การรอดตายก็ยากอยู่พอแล้ว ดังนั้นชื่อเสียงจึงไม่มีค่า แต่ตอนนี้หนิง เสี่ยวเหยา
สนใจเรื่องชื่อเสียงของโหลว จื่อกุ้ย มาก ชายผู้นี้ได้ต่อสู้เลือดตกและได้รับบาดเจ็บสาเพื่อประเทศของเขา
ก่อนจะถูกสาปแช่งว่าเป็นคนทรยศ เพื่ออะไร? เพียงเพราะเขาเป็นเพื่อนกับองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ?
หนิง เสี่ยวเหยา ไม่เข้าใจมัน ดังนั้นแน่นอนว่าเธอไม่สามารถรับมันได้
"ไม่ต้องกลัว" หนิง
เสี่ยวเหยาตบหน้าอกของเธอ ในขณะที่เธอสัญญากับโหลว จื่อกุ้ยขึ้น "แน่นอนข้าจะช่วยให้ท่านได้รับความบริสุทธิของท่านกลับมา"
อาการบาดเจ็บของโหลว จื่อกุ้ย
ไม่เจ็บอีกต่อไป แต่หัวของเขากลับปวดขึ้นมาอีกครั้ง เขารู้สึกเหนื่อยและสับสนมาก
หนิง เสี่ยวเหยา ยกมือขึ้นเพื่อจับไปที่หน้าผากของโหลว จื่อกุ้ย การเคลื่อนไหวของนางเร็วเกินไป
ดังนั้นเมื่อโหลว จื่อกุ้ยรู้ตัวมันก็วางลงไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้นิ้วมือเรียวผอมของนางก็กำลังสัมผัสผิวหนังของเขาอยู่
เขาหรี่ตาลง ทักษะศิลปะการต่อสู้ของคนคนนี้ค่อนข้างสูงมาก
"ถ้าท่านเหนื่อยก็นอนซะ"
หนิง เสี่ยวเหยาจับหน้าผากของเขา แสงสีเขียวอ่อนๆ ก็วิ่งเข้าไปในหัวของเขาอีกครั้ง
"ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือไม่" เธอถามขึ้นเบา ๆ
สายตาของโหลว จื่อกุ้ย เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอยขึ้นอีกครั้ง
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาได้กลิ่นหอมของหญ้า ต้นไม้และทุ่งหญ้าหลังฝนตก "เป็นเจ้าเองหรือ?" เขาถามหนิง เสี่ยวเหยา ด้วยความสงสัย
หนิง เสี่ยวเหยา ดึงมือของเธอออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
กลิ่นลมจางๆหายไปในอากาศอย่างรวดเร็วโดยไม่มีร่องรอยเหลืออยู่ โหลว จื่อกุ้ย รู้สึกไม่เต็มใจที่กลิ่นหอมนั้นหายไป
เขาก้มศีรษะลงไปมองที่มือผอมบางมาก ๆ ของ หนิง เสี่ยวเหยา
"เจ้ารู้ทักษะการต่อสู้ด้วยหรือ?" เขาถามขึ้น
หนิง เสี่ยวเหยา
ไม่รู้ว่าหนิงหยูเคยเรียนทักษะการต่อสู้มาหรือไม่ แต่เธอก็ไม่สนใจ
"ข้าเคยเรียน ยังมีซุปทะเลอร่อยๆ อยู่ข้างนอก ท่านต้องการบ้างไหม? ข้าจะไปเอามาให้ "
โหลว จื่อกุ้ย ยังไม่มีโอกาสได้พูด ก่อนที่หนิง
เสี่ยวเหยาจะวิ่งออกไป เขานั่งอยู่บนโซฟาต่ำและมองไปที่ประตูที่ปิดสนิทอีกครั้ง ก่อนที่สติของเขาจะกลับมา
เขาอยากจะพูดกับนางเกี่ยวกับตัวตันที่เป็นผู้หญิงของนาง แต่การเดินพลังของนางทำให้เขาหมดแรง
นอกเหนือจากคำพูดแรกของเขาในช่วงเริ่มต้นของการสนทนาของพวกเขาแล้ว เขาก็ยังไม่ได้พูดเลย!
หนิง เสี่ยวเหยา
วิ่งเข้าไปในทางเดินและเต็มไปด้วยความสับสนในขณะที่เห็นซุปหอยเชลล์ยังคงเต็มอยู่
ทำไมไม่มีใครดื่มอะไรอร่อย ๆเช่นนี้? "ไม่มีใครดื่มมันเลยหรือ?” หนิง เสี่ยวเหยาถามฟางถัง และคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่รอบ ๆ "ถ้าพวกเจ้าไม่ดื่ม
ข้าก็จะเอาไปให้ท่านแม่ทัพสูงสุด"
หมอหลวงกั๋ว
ยืนอยู่ที่ลานจนกระทั่งเขาได้ยินคำพูดของหนิง
เสี่ยวเหยาและเห็นเธอกำลังจะวิ่งออกไป เขาไม่แม้แต่จะหยุดที่จะทำความเคารพ ก่อนที่จะร้องขึ้น
"ฝ่าบาท ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถกินอาหารที่ทำจากหอยเหล่านี้ได้พ่ะย่ะค่ะ"
“ฮืม?” หนิง เสี่ยวเหยาตกใจ
"พวกเขากินไม่ได้หรือ" หมอหลวงกั๋ว
พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่รุนแรง นับตั้งแต่เขาถูกนำตัวมาที่นี่ด้วยดาบที่จ่ออยู่บนคอของเขา
เขาก็ต้องรับผิดชอบต่อคนเหล่านี้ พวกเขามีบาดแผลภายนอกและยังต้องการกินอาหารที่จะทำให้บาดแผลขยายตัวอีกหรือ? พวกเขาปรารถนาตวามตายหรืออย่างไร?
หนิง เสี่ยวเหยา
อยากจะบอกว่าบาดแผลของท่านแม่ทัพสูงสุดกำลังจะหาย แต่เธอก็หยุดความคิดนี้ลง
คนเหล่านี้จะปฏิบัติกับท่านแม่ทัพสูงสุดเหมือนคนประหลาดหรือไม่ ถ้าเขาจะหายจากอาการบาดเจ็บของเขาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
"ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงกั๋วตะโกนขึ้น
เธอถอนหายใจ "เช่นนั้นก็ลืมมันไปซะ
พี่ชายฟาง ไปที่ห้องครัวและหาซุปอื่นมาแทน”
ฟางถังรับคำสั่งและจากไป
"เจ้ากินมันหรือไม่?" หนิง เสี่ยเหยา ถามหมอหลวงกั๋วขึ้น คนที่กำลังส่ายหัวอยู่ในตอนนี้
เขาไม่ต้องการกินอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาในอนาคต! แม่ทัพนายพลหลายคนส่ายหัวของพวกเขาให้กับหนิง
เสี่ยวเหยาเหมือนกัน พวกเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะกิน แล้วจู่ๆ หนิง เสี่ยวเหยาก็วางถังใบใหญ่ยักษ์ไว้บนบ่าของเธอ
ถ้ามนุษย์ไม่กินอาหารเช่นนั้นก็เอาไปให้แมวกิน
"... ... " ไปทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึง
ถังนี้สูงกว่าฝ่าบาทเสียอีก แต่เขาก็เอามันออกไปทั้งแบบนั้น เขามีความแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?
หัวหน้าแมวดำและส่วนที่เหลือ เห็นหนิง
เสี่ยวเหยา ออกมาพร้อมกับถังใหญ่ยักษ์ของหอยเชลล์ พวกมันก็กระโดดลงมาจากต้นอู๋ถงด้วยความตื่นเต้น
พวกมันล้อมรอบหนิง เสี่ยวเหยา พร้อมกับร้องเหมียวๆ ขึ้น หนิง เสี่ยวเหยา มองหาที่ว่างเปล่าและไม่สนใจพิธีการทั้งหมดก่อนที่จะเทซุปลงไป
ในขณะที่เธอพูดขึ้น "กิน" จากนั้นเธอก็ยกถังขึ้นและดื่มส่วนที่เหลือ
เมื่อเผชิญหน้ากับอาหารมื้ออร่อยที่อยู่ต่อหน้าเขา
หัวหน้าแมวดำก็ยังคงไม่ลืมที่จะถามขึ้น "แล้วท่านแม่ทัพสูงสุดล่ะ"
หนิง เสี่ยววางถังลงและพูดขึ้น"หลับไปแล้ว"
หัวหน้าแมวดำก้มศีรษะของเขาลงไปเพื่อกินหอยเชลล์บนพื้นต่อ
เคี้ยวและเคี้ยว แต่แล้วจู่ๆ ก็เหมือนเขานึกถึงอะไรขึ้นมาได้เขาก็ร้องออกมาด้วยเสียงที่สุดระทึก
"ไม่ใช่ว่าท่านแม่ทัพถูกยาพิษหรือ?!"
"... ... " หนิง
เสี่ยวเหยาถึงกับพูดไม่ออก นี่มันจะแฟนตัวยงอะไรกันหนักหนา นี่มันก็เป็นเวลาดึกแล้ว
แต่พึ่งจะมาจำได้เกี่ยวกับยาพิษของท่านแม่ทัพสูงสุดในตอนนี้ หัวหน้าแมวดำวิ่งขึ้นไปบนไหล่ของหนิง
เสี่ยวเหยาและเกาหน้าด้วยอุ้งท้าวของมันก่อนจะพูดขึ้น "ท่านแม่ทัพสูงสุดถูกวางยาพิษ
ท่านแม่ทัพสูงสุดถูกวางยาพิษ ท่านแม่ทัพสูงสุดถูกวางยาพิษ... "
"พอแล้ว" หนิง
เสี่ยวเหยาจับหัวหน้าแมวดำขึ้นมา "ข้าได้รักษายาพิษในตัวท่านแม่ทัพสูงสุดไปแล้ว"
"เจ้าเป็นหมอหรือ?"แมวสีขาวตัวน้อยและมีขนที่ยาวถามขึ้น แล้วหนิง เสี่ยวเหยาก็พยักหน้า
"เป็นไปไม่ได้" นกกระจอกชราส่งเสียงขึ้นจากยอดไม้
"เจ้าอ่านหนังสือเพียงไม่กี่เล่มและพวกมันก็ได้รับการสั่งสอนจากแม่นมของเจ้าเท่านั้น!
เพราะอุปราช ไม่อนุญาติให้เจ้าได้เรียนรู้อะไรเลย "
หนิง เสี่ยวเหยา กรอกตาของเธอและพูดขึ้น
"ข้าถึงขนาดสามารถพูดคุยกับพวกเจ้าได้ ดังนั้นทำไมข้าจะเป็นหมอไม่ได้"